วันที่ 30 สิงหาคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ทรงฟังปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ครั้งที่ 10 เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หัวข้อ “การป้องกันการพลัดถิ่นโดยไม่มีเหตุอันควร และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบ” โดยมีนางสาวเซซิเลีย ฮีเมเนซ-ดามารี นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศชาวฟิลิปปินส์ และอดีตผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติ ด้านสิทธิมนุษยชนของผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ เป็นผู้แสดงปาฐกถา ซึ่งงานครั้งนี้สภากาชาดไทยจัดขึ้นร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กราบบังคมทูลถวายรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของงานปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจของสภากาชาดไทยในฐานะสมาชิกขบวนการกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อสาธารณชน โดยจัดงานปาฐกถาขึ้นทุก 2 ปี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 10 และเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปี ในโอกาสนี้มีผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถากว่า 300 คน จากหน่วยงานราชการ คณะทูต องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร รวมถึงนักวิชาการและนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ
ผู้แสดงปาฐกถาได้บรรยายถึงสถานการณ์และความท้าทายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและการคุ้มครองแก่ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ โดยในช่วงปลายปี 2565 มีผู้ที่ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานอันเนื่องมาจากการขัดกันทางอาวุธ เพิ่มขึ้นถึง 62.5 ล้านคน ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจากปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และชี้ให้เห็นว่าผู้พลัดถิ่นทุกคนมีสิทธิได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ