2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 สภากาชาดไทยจะเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้ โดยท่านสามารถตรวจสอบวัตถุประสงค์ของการใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทข้อมูลที่สภากาชาดไทยเก็บรวบรวมจากหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละกิจกรรมของสภากาชาดไทย ซึ่งท่านได้เข้าทำธุรกรรมใด ๆ กับสภากาชาดไทย ตามช่องทางกิจกรรมดังนี้
2.1.1 งานบริการทางการแพทย์และโรงพยาบาล รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน)
2.1.2 งานบรรเทาทุกข์ อาสาสมัคร และการจัดอบรม รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน)
2.1.3 ศูนย์รับบริจาค และให้การสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ รายละเอียดหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับกิจกรรมนี้ (คลิกเพื่ออ่าน)
2.2 ในกรณีที่สภากาชาดไทยจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดเป็นการเฉพาะนอกเหนือจากที่กล่าวมา สภากาชาดไทยจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบเป็นครั้งคราว และอาจขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณี ๆ ไป โดยพิจารณาจากประเภทของข้อมูล
ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการกำหนดข้อมูลบางประเภทให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และการเก็บรวบรวมจะทำได้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงอาจต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ดังนั้น สภากาชาดไทยจะดำเนินการเก็บข้อมูลอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และสภากาชาดไทยจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผลความจำเป็น รวมถึงอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ (“บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรม”) สภากาชาดไทยจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมเฉพาะกรณีและตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในกรณีที่สภากาชาดไทยมีความจำเป็นจะต้องขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมสำหรับกิจกรรมใด สภากาชาดไทยจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเฉพาะตัวหรือ เป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพอันสมควร ซึ่งผู้เยาว์ดังกล่าวสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้
2.3 สภากาชาดไทยอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน เมื่อท่านได้มีปฏิสัมพันธ์หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย อาทิ สมัครเป็นอาสาสมัคร ลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับสภากาชาดไทย สนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทยผ่านการบริจาค การซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในงานที่สภากาชาดไทยเป็นผู้จัดขึ้น การระดมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในนามของสภากาชาดไทย การบอกเล่าเรื่องราวของท่านหรือให้คำแนะนำติชมของท่าน เข้าเป็นคู่สัญญากับสภากาชาดไทย ยื่นเอกสารคำร้อง คำขอ ประเภทต่างๆ เข้าใช้บริการต่างๆ ของสภากาชาดไทย เยี่ยมชมเพื่อทำความรู้จักสภากาชาดไทย หรือการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV กล้องวีดีโอ กล้องถ่ายภาพนิ่งของสภากาชาดไทยเมื่อท่านเข้ามาในสถานที่ของสภากาชาดไทย หรือในสถานที่ร่วมกิจกรรมของสภากาชาดไทย เป็นต้น
2.4 สภากาชาดไทยอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้มาจากท่านโดยตรง เช่น จากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนซึ่งเป็นพันธมิตรของสภากาชาดไทย หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยโดยรัฐบาล และหน่วยงานทางวิชาชีพ สื่อ หรือ เอกสารเผยแพร่สาธารณะ เป็นต้น
2.5 สภากาชาดไทยอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามที่ท่านมีปฏิสัมพันธ์กับสภากาชาดไทยผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn, Line เป็นต้น โดยสภากาชาดไทยอาจใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของสภากาชาดไทย ผ่านคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์พกพาของท่าน ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้อาจรวมถึงคุกกี้ เว็บบีคอน พิกเซลแท็ก และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยข้อมูลที่สภากาชาดไทยได้รับและเก็บรวบรวมนี้อาจขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนบุคคลของท่านและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มนั้นๆ รวมไปถึงข้อมูลการใช้งานหรือบริการของท่านบนเว็บไซต์ของสภากาชาดไทย เช่น หน้าเพจที่ท่านเข้าเยี่ยมชมหรือใช้บริการ หรือลิงก์ต่าง ๆ ที่ท่านได้คลิกเพื่อเข้าถึงเนื้อหาส่วนอื่นของเว็บไซต์ หรือออกไปสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม เป็นต้น รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของสภากาชาดไทย เช่น ประเภทระบบปฏิบัติการ ประเภทเบราว์เซอร์ การตั้งค่า ประเภทอุปกรณ์ที่ใช้ หรือข้อมูลประเภท Uniform Resource Locator, ที่อยู่ไอพี (IP Address) เป็นต้น
การใช้คุกกี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก จัดเก็บในลักษณะของไฟล์ข้อความ (Text file) ที่จะถูกส่งไปยังเบราว์เซอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลกลับมายังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่เจ้าของข้อมูลได้มีการเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยจะส่งคุกกี้ไปยังเบราว์เซอร์ของท่าน และอาจมีการบันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าเว็บไซต์ ซึ่งคุกกี้มีประโยชน์สำคัญในการทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าต่าง ๆ บนอุปกรณ์ของท่านได้
ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกการบริการใด ๆ ของสภากาชาดไทย ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์มออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม สภากาชาดไทยอาจระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูลอื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ ท่านอาจลบการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อยกเลิกการใช้คุกกี้ และยังคงใช้งานเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยต่อไปได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy) (คลิกเพื่ออ่าน)
2.6 สภากาชาดไทยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่ หลังจากนั้นสภากาชาดไทยจะลบและทำลายข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสภากาชาดไทย โดยปกติระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะไม่เกินกำหนดระยะเวลา 10 (สิบ) ปี เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น หรือหากมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น
2.7 สภากาชาดไทยจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยไม่มีฐานการประมวลผลข้อมูลโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยข้อมูลของท่านอาจถูกเปิดเผย หรือโอนไปยังองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน หน่วยงานของรัฐ หรือผู้ให้บริการภายนอก
ในกรณีที่สภากาชาดไทยจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก สภากาชาดไทยจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลภายนอกจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ให้เกิดการสูญหาย การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ การดัดแปลง หรือการเปิดเผยและการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง
2.8 สภากาชาดไทยจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้รับข้อมูลในต่างประเทศ เฉพาะกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ทำได้เท่านั้น ทั้งนี้ สภากาชาดไทยอาจปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โดยเข้าทำข้อสัญญามาตรฐานหรือใช้กลไกอื่นที่พึงมีตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ และสภากาชาดไทยอาจอาศัยสัญญาการโอนข้อมูล หรือกลไกอื่นที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ