ในการทำบุญแต่ละครั้งหลาย ๆ คนคงคิดว่า จะจัดอาหารอะไรไปถวายพระ อาหารที่ทำบุญไปนั้น โดยมากมักจะถวายอาหารเป็นแกงกะทิหรือขนมหวาน เช่น ทองหยิบ ทองหยอด โดยขนมหวานเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพต่อพระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่า ปัจจุบัน มีพระสงฆ์จำนวนมากที่อาพาธด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในโลหิตสูง และโรคอ้วน ซึ่งเป็นโรคที่ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการฉันอาหารที่ไม่เหมาะสม
แนวทางการเลือกอาหารถวายพระ
– ข้าวกล้องอุดมด้วยวิตามิน มีใยอาหารสูง และมีดัชนีน้ำตาล (glycemic index) ต่ำ
– เลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่
– หลีกเลี่ยงของมัน ของทอดหรือส่วนประกอบจากกะทิ
– เลือกเมนูอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
– ผักและผลไม้หลากหลายชนิดที่ปลอดสารพิษ
– เครื่องดื่มปราศจากน้ำตาล หรือหวานน้อย หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้กล่องหรือชาเขียวที่รสหวาน เพราะมีน้ำตาลสูง
การเลือกอาหารใส่บาตรหรือถวายพระ จึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ซึ่งมีกิจวัตรและการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไป ให้มีสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
โดยวิธีการรักษาโรคดังกล่าว คือ การควบคุมอาหาร เลือกอาหารที่เหมาะสม ลดอาหารรสหวาน มัน เค็ม และควรเพิ่มผัก ผลไม้ อาหารต่าง ๆ ให้ครบ 5 หมู่ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและการรักษาด้วยยา ดังนั้น หากจะทำบุญตักบาตรครั้งต่อไป จึงอยากเชิญชวนให้ทุก ๆ ท่านใส่ใจเลือกอาหารสักนิดเพราะสุขภาพของพระจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับอาหารใส่บาตรของทุกท่านนั่นเอง
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน เมื่อใกล้ถึงวันที่จะต้องไปตรวจเลือดติดตามระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด มักเกิดการกังวลว่าจะต้องควบคุมอาหารเฉพาะใกล้วันตรวจเท่านั้น เชื่อว่านี่คงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของผู้ป่วยหลาย ๆ คน สิ่งที่ทำก็คงเป็นการควบคุมอาหารมากกว่าปกติในช่วงใกล้มาเจาะเลือด เพื่อที่จะได้ค่าน้ำตาลและไขมันในเลือดเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ แต่ในความจริงแล้วไม่ควรทำ เพราะอาจเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ ซึ่งเป็นอันตราย อาจทำให้หมดสติได้ นอกจากนี้ การตรวจค่า HbA1c จะแสดงถึงค่าน้ำตาลสะสมในช่วง 3 เดือน เพราะฉะนั้น การควบคุมอาหารเพียงช่วงสั้น ๆ นั้น ไม่สามารถหลอกหมอได้ ซึ่งการทราบระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดที่เป็นความจริงของคนไข้ ทำให้หมอสามารถปรับยาให้เหมาะสมกับคนไข้ได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไข้เอง ทางที่ดี ควรควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพของทุกท่านทั้งพระและฆราวาส
ที่มา : วารสาร ฬ จุฬา www.chulalongkornhospital.go.th