มะเร็งปอดรอดได้ แค่หยุดสูบบุหรี่

มะเร็งปอดเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เลือกเพศ ช่วงวัย สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม สาเหตุของการเกิดโรคมีหลายประการ ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ครองแชมป์ก่อโรคมะเร็งปอดอันดับหนึ่งก็ยังคงเป็นการสูบบุหรี่ คนที่ไม่สูบบุหรี่ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดได้ ซึ่งการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เช่น ถ้าเราตรวจคน  ที่ไม่สูบบุหรี่ 1,000 คน อาจจะเจอคนเป็นมะเร็งปอดไม่ถึง 1 คน แต่ถ้าตรวจคนสูบบุหรี่ 1,000 คน เรามีโอกาสเจอคนเป็นมะเร็งปอดได้ 4-5 คน และจากสถิติโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งมากกว่า 1 แสนรายต่อปี (เฉลี่ย 400 คนต่อวัน) สาเหตุ การรับสารก่อเกิดมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ที่พบบ่อยคือ ควันบุหรี่ ผู้สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องทั้ง ผู้สูบเองหรือสูดควันบุหรี่จากคนรอบข้าง จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดสูงกว่าบุคคลที่ไม่สูบอย่างชัดเจน มลพิษจากสิ่งแวดล้อมบางชนิด เช่น Asbestos (แร่ใยหิน) Radon ซึ่งเป็นสารกัมมันตภาพรังสีที่พบได้ในครัวเรือน กลุ่มเสี่ยงจากปัจจัยอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวมีประวัติป่วยด้วยโรคมะเร็ง อาการ ไอเรื้อรัง เสมหะมีเลือด เหนื่อยหอบ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดกระดูก ปวดศีรษะ…

วันผู้สูงอายุแห่งชาติ

วันผู้สูงอายุแห่งชาติ ในช่วงวันสงกรานต์ของทุก ๆ ปี อีกหนึ่งวันสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนในครอบครัว ญาติ พี่น้อง จะได้มีโอกาสมารวมตัวกันเป็นการให้คุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญกับผู้สูงอายุ ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ      ตามศักยภาพของตนเอง สังคมไทยในปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่การเป็น สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) อย่างสมบูรณ์ โดยสัดส่วนของผู้สูงอายุหรือประชากรที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งตรงกับลักษณะของสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ จากข้อมูลของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ เดือนธันวาคม 2566 พบว่า ไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 13,064,929 คน คิดเป็น 20.17% ของประชากรรวม มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 8,901,145 คน คิดเป็น 14%          ของประชากรรวม ขณะที่สัดส่วนของอัตราการเกิด…

เด็กอายุ 15 ปี ที่บริจาคอวัยวะ ทำให้พยาบาลคนหนึ่งยังทำหน้าที่รับบริจาคอวัยวะมาตลอด 13 ปี

“เคสนี้เป็นเด็กอายุ 15 ปี พ่อแม่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และเขาก็อยู่กับยาย ยายเลี้ยงมา ตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุ เชื่อไหม! ยายไม่มาเยี่ยมเลย แต่คนที่มาคือแม่ที่มาจากกรุงเทพฯ . พี่ก็ให้ข้อมูลและบอกแม่น้องเขาว่าให้คุยกับยายก่อนนะ เพราะยายเลี้ยงเขามาตั้ง 15 ปี ตอนนั้นแม่เขาก็ 50/50 นะ แต่ยายไม่มาเลย น้องเขานอนโรงพยาบาล 3 วัน ยายยังก็ไม่มา เพราะยายทำใจไม่ได้ ต่อมาแม่เขากลับไปคุยกับคนในครอบครัวและยินดีจะบริจาคอวัยวะให้ เราก็ดำเนินตามขั้นตอน . ผ่านมา 1 อาทิตย์ จังหวะที่เดินราวน์คนไข้ในโรงพยาบาล เห็นหน้าแม่น้องที่บริจาคอวัยวะมากับผู้หญิงสูงอายุ จังหวะที่เขาเห็นเรา เขาก็ยิ้มและรีบเดินมาหาเราพร้อมกับผู้หญิงสูงอายุคนนั้น ผู้หญิงแก่ ๆ คนนั้น ยกมือไหว้พี่ บอกว่าเป็นยายของน้อง (ที่บริจาคอวัยวะ) . เขาให้ลูกสาวพามาหาเรา เพราะว่าตอนที่จัดงานศพน้อง คนในหมู่บ้านมาช่วยงานศพทุกบ้านเลย ทุกคนต่างชื่นชม เพราะเป็นคนแรกของหมู่บ้านที่บริจาคอวัยวะ . ยายภูมิใจกับหลานมาก หลานเขาอายุแค่นี้ ตัวเขาที่อยู่มาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไม่เคยเห็นคนในหมู่บ้านมาช่วยงานศพใครเยอะขนาดนี้มาก่อน . “พี่ว่างานบริจาคอวัยวะเนี่ย ทำให้ครอบครัวที่เขาสูญเสีย เขามีพลัง…

วิธีจัดการความเครียดง่าย ๆ ด้วยตนเอง

การระบายปัญหาจากความเครียดออกมาด้วยการขอกำลังใจ และการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก การได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้คนเดียว จะทำให้ภาวะตึงเครียดผ่อนคลายลง และรู้สึกดีขึ้น   หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ออกกำลังกายอย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน จะช่วยปรับอารมณ์และลดระดับความเครียดลงได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ การมีสุขภาพกายที่ดีย่อมส่งผลดีต่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินรวม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเครียด หาวิธีรักษา หากไม่สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตนเอง หรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยบอกเล่าปัญหา ความทุกข์ใจต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด และรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา การวางแผนรับมือในการจัดการกับความเครียด   ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกวัน และเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของเราทุกคน หากเราได้นำวิธีการข้างต้นไปใช้ในการจัดการความเครียดแล้ว ก็จะมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี มีสมดุลชีวิตที่ดีได้ในที่สุด   ที่มา : pobpad.com

วันนอนหลับโลก : World Sleep Day

รู้หรือไม่? มนุษย์ใช้เวลา 1 ใน 3 ไปกับการนอน ดังนั้นการนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดี และลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ โดยหลายผลการศึกษาพบว่าปัญหาการนอนที่พบมากที่สุด คิดเป็น 10-20% ของประชากรทั่วโลกเกิดในผู้สูงอายุถึง 20%              ถ้าระยะเวลาในการนอนหลับที่ไม่เพียงพอหรือมากเกินไปจะส่งผลถึงอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น อาการผิดปกติจากการนอน อาจส่งผลกระทบถึงการทำงานการตอบสนองต่าง ๆ การสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังส่งผลถึงด้านสุขภาพจิตอีกด้วย แนวทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับผู้มีอาการนอนไม่หลับ เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาในทุกวัน ออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอน ประมาณ 30 นาที รับประทานอาหารที่มีสารทริปโตเฟน เช่น กล้วย นม เป็นต้น งดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1-2 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หลังเที่ยงวัน งดสูบบุหรี่ช่วงเวลาก่อนนอน สร้างสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เหมาะสม เช่น มืด เงียบและเย็นสบาย เลือกหมอนหรือที่นอน ที่โอบอุ้มสรีระได้อย่างดี ไม่ทำให้ปวดเมื่อยขณะหลับ พฤติกรรมที่ไม่ควรทำสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ไม่ควรซื้อยานอนหลับมารับประทานเองโดยเด็ดขาด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง ก่อนซื้อวิตามินหรือยาช่วยเรื่องการนอนหลับ…

อันตราย จากการใช้ “ยาระบาย”

รู้หรือไม่ว่ายาระบายบางประเภทอาจทำให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ลดลงมากกว่าปกติ หรือทำให้เยื่อบุผนังลำไส้เหี่ยว กล้ามเนื้อใต้เยื่อบุผิวลำไส้หนามากขึ้น ปมประสาทเสื่อมและเกิดการสูญเสียโปรตีนจากการดูดซึมที่ผิดปกติของลำไส้   การใช้ยาระบาย ควรใช้เป็นครั้งคราวและไม่ควรใช้ติดต่อกันอย่างยาวนาน มากสุดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพราะยาจะไปรบกวนการทำงานปกติของลำไส้ ถ้าไม่กินยาระบายเพื่อกระตุ้น ลำไส้ก็จะไม่ทำงาน ส่งผลเสียในระยะยาวไปอีก   จึงควรมีการเลือกใช้ยาระบายอย่างระมัดระวัง เพราะยาระบายมีหลายชนิด ทั้งยังออกฤทธิ์ต่างกัน ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ และควรดูแลตัวเองด้วยการเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อให้อุจาระจับตัวกันเป็นก้อนอย่างกลมเกลียวสามัคคี มีความอ่อนนุ่ม และใยอาหารยังเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดี (Probiotics) ทำให้แบคทีเรียเติบโต และแบ่งจำนวนได้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีก้อนอึที่ใหญ่และนุ่มขึ้น ก็จะกระตุ้นให้การขับถ่ายเราดีได้โดยธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาระบายใด ๆ   แต่หากไม่ถ่ายสักที ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและรักษาอาการของเราได้อย่างตรงจุด เพื่อความปลอดภัยกว่าการเลือกใช้ยาระบายด้วยตัวเอง     ที่มา : www.interpharma.co.th

“วันรักสัตว์เลี้ยงโลก” (Love Your Pet Day)

“วันรักสัตว์เลี้ยงโลก” (Love Your Pet Day) 20 กุมภาพันธ์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งพฤติกรรมส่วนบุคคล ครอบครัว สังคม     รวมไปถึงสภาพแวดล้อมเหล่านี้ มีแนวโน้มทำให้คนไทยในปัจจุบันนิยมเลี้ยงสัตว์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสุนัขและแมว ซึ่งทุกวันนี้การปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เป็นแค่ “สัตว์เลี้ยง” หากแต่เป็น “สมาชิกในครอบครัว” การเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งหลายคนทราบดีว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดีให้เราในวันที่เหนื่อยล้า ช่วยลดความเครียด และยังอาจช่วยให้พัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อีกด้วย ประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์ สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว การเลี้ยงสัตว์ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นขึ้นได้ โดยทำให้ครอบครัวได้ดูแลสัตว์และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น พาไปเดินเล่นออกกำลังกาย      ให้อาหาร อาบน้ำ ซื้อของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง และพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวในวันหยุด เป็นต้น ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและลดความเครียด การสัมผัสและกอดสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อเกิดความเครียด และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งช่วยให้ปรับระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ นอกจากนี้ การเลี้ยงสัตว์ยังช่วยคลายความเหงาให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีพี่น้องและ    มีเพื่อนน้อย การเลี้ยงสัตว์ทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีเพื่อนที่สามารถพูดคุยและเล่นด้วยได้ ส่วนผู้สูงอายุที่มีสัตว์เลื้ยงในบ้าน จากงานวิจัยพบว่า จะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกเหงา…

การแก้อาการนอนเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ

  การแก้อาการนอนเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ อาการง่วงหงาวหาวนอนระหว่างวัน หรือง่วงนอนตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ได้อดนอน แต่ยังรู้สึกง่วง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการนี้อยู่ ขอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตบางอย่าง เพื่อให้ร่างกายนอนหลับได้เต็มอิ่ม และไม่รู้สึกง่วงตลอดเวลาจนเสียบุคลิก งดชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อยเป็นเวลา 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว ไม่รับประทานอาหารมัน, อาหารที่ย่อยยาก หรืออาหารที่มีฤทธิ์เย็น เนื่องจากการรับประทานอาหารเหล่านี้จะเป็นการรบกวนการทำงานของม้าม ทำให้ม้ามทำงานหนักและอ่อนแอลง หลีกเลี่ยงการใช้งานสมองอย่างหนักหน่วง การทำงานหนักส่งผลทำให้ร่างกายเกิดความเครียด สมองจึงรู้สึกล้า ส่งผลต่อคุณภาพในการนอนหลับ ทำให้นอนหลับไม่สนิท รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินและเกลือแร่ เช่น วิตามินรวมชนิดต่าง ๆ ช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง การปรับพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะสดใสแข็งแรง เพื่อสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่มา : Interpharma Thailand