มอบดวงตาเมื่อไม่ได้ใช้แล้วให้กับผู้ป่วยที่รอรับบริจาค ได้ใช้ดวงตาของเราต่อไป
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยที่ทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้กับผู้ป่วย เมื่อปี พ.ศ. 2512 และเป็นกระจกตาดวงแรกที่ได้การบริจาคผ่านศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทยอีกด้วย
“กระจกตา” มีลักษณะโค้งนูน ใส อยู่ด้านหน้าสุดของดวงตา ทำหน้าที่เป็นเลนส์ชิ้นหนึ่งในการหักเหแสงเพื่อโฟกัสภาพ เมื่อคนไข้มีอาการกระจกตกขุ่น มัว บวม หรือผิดรูปร่าง จะส่งผลต่อการส่งผ่านและหักเหของแสง มีผลต่อการโฟกัสของภาพ ทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลง อย่างไรก็ตามกระจกตาสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนได้ แต่ต้องได้รับกระจกตามาจากผู้บริจาคเสียก่อน
กระจกตาแบ่งออกเป็น 5 ชั้น สามารถเกิดความผิดปกติขึ้นได้ทุกชั้น โดยการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาแบบเดิม เมื่อมีความผิดปกติที่กระจกตาชั้นใดจะต้องเปลี่ยนทุกชั้น แต่เทคโนโลยีการผ่าตัดในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก ทำให้สามารถผ่าตัดเฉพาะชั้นที่มีความผิดปกติได้ ซึ่งช่วยให้คนไข้ปลอดภัยมากขึ้นและผลการผ่าตัดดีขึ้น ด้วยเทคนิคใหม่นี้ทำให้กระจกตาที่ได้รับจากผู้บริจาค 1 คน จะสามารถแบ่งนำไปผ่าตัดให้กับผู้ป่วยได้มากกว่า 1 คน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่รอเปลี่ยนกระจกได้
ผู้ป่วยมักมีความกังวลว่า เมื่อผ่าตัดแล้วจะมองเห็นดีขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้การผ่าตัดจะได้ผลดี ขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งตัวโรคที่ผู้ป่วยเป็น วิธีการผ่าตัด ตลอดจนส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการมองเห็นของดวงตาว่ายังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ มีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ภายหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด การผ่าตัดกระจกตาถือเป็นการปลูกถ่ายอวัยวะอย่างหนึ่ง ธรรมชาติของร่างกายจะทำการต่อต้านเนื้อเยื่อซึ่งไม่ใช่ของตนเองรวมทั้งเนื้อเยื่อกระจกตาของผู้บริจาค ดังนั้นการติดตามอาการหลังผ่าตัดจึงสำคัญมาก ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ต้องติดตามการรักษากับจักษุแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสการต่อต้านเนื้อเยื่อกระจกตาบริจาค รักษากระจกตา ให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว
การเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยมองเห็น ถือเป็นความภูมิใจและเป็นกำลังใจในการทำงานในทุก ๆ วัน ประสบการณ์ที่ประทับใจมาก ๆ เรื่องหนึ่งคือ หมอได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้กับเด็ก 1 ขวบ ที่มีอาการกระจกตาขุ่นทั้ง 2 ข้างมาแต่กำเนิด พ่อแม่ของเด็กอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่รู้ว่าจะพาไปรักษาที่ไหน ด้วยความบังเอิญเมื่อพ่อแม่ของเด็กมาตรวจตา ทำให้สังเกตเห็นอาการของเด็กเหมือนกับว่ามองไม่ค่อยเห็น หมอจึงขอตรวจพบว่ามีแผลเป็นที่กระจกตาทั้ง 2 ข้าง จึงแนะนำให้จองคิวเพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา หลังผ่าตัดผ่านไป 1 สัปดาห์ เด็กเริ่มมองเห็นได้ดีขึ้น มองหน้า และยิ้มให้เรา ทำให้หมอรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยให้เด็กมองเห็นได้
ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคดวงตา มอบดวงตาเมื่อไม่ได้ใช้แล้วให้กับผู้ป่วยที่รอรับบริจาค ได้ใช้ดวงตาของเราต่อไป ในปัจจุบันยังมีคนรอคอยดวงตาบริจาคอยู่จำนวนมาก ซึ่งการรอคอยนาน ๆ อาจทำให้ผลการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ได้ผลไม่ดีเท่ากับการผ่าตัดตั้งแต่เริ่มมีอาการแรก ๆ
อาจารย์แพทย์หญิงวรรณรัตน์ สาธิตพิฐกุล
ฝ่ายจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย