วิธีจัดการความเครียดง่าย ๆ ด้วยตนเอง

การระบายปัญหาจากความเครียดออกมาด้วยการขอกำลังใจ และการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก การได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้คนเดียว จะทำให้ภาวะตึงเครียดผ่อนคลายลง และรู้สึกดีขึ้น   หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ออกกำลังกายอย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน จะช่วยปรับอารมณ์และลดระดับความเครียดลงได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ การมีสุขภาพกายที่ดีย่อมส่งผลดีต่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินรวม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเครียด หาวิธีรักษา หากไม่สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตนเอง หรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยบอกเล่าปัญหา ความทุกข์ใจต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด และรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา การวางแผนรับมือในการจัดการกับความเครียด   ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกวัน และเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของเราทุกคน หากเราได้นำวิธีการข้างต้นไปใช้ในการจัดการความเครียดแล้ว ก็จะมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี มีสมดุลชีวิตที่ดีได้ในที่สุด   ที่มา : pobpad.com

วันนอนหลับโลก : World Sleep Day

รู้หรือไม่? มนุษย์ใช้เวลา 1 ใน 3 ไปกับการนอน ดังนั้นการนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดี และลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ โดยหลายผลการศึกษาพบว่าปัญหาการนอนที่พบมากที่สุด คิดเป็น 10-20% ของประชากรทั่วโลกเกิดในผู้สูงอายุถึง 20%              ถ้าระยะเวลาในการนอนหลับที่ไม่เพียงพอหรือมากเกินไปจะส่งผลถึงอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น อาการผิดปกติจากการนอน อาจส่งผลกระทบถึงการทำงานการตอบสนองต่าง ๆ การสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังส่งผลถึงด้านสุขภาพจิตอีกด้วย แนวทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับผู้มีอาการนอนไม่หลับ เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาในทุกวัน ออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอน ประมาณ 30 นาที รับประทานอาหารที่มีสารทริปโตเฟน เช่น กล้วย นม เป็นต้น งดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1-2 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หลังเที่ยงวัน งดสูบบุหรี่ช่วงเวลาก่อนนอน สร้างสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เหมาะสม เช่น มืด เงียบและเย็นสบาย เลือกหมอนหรือที่นอน ที่โอบอุ้มสรีระได้อย่างดี ไม่ทำให้ปวดเมื่อยขณะหลับ พฤติกรรมที่ไม่ควรทำสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ไม่ควรซื้อยานอนหลับมารับประทานเองโดยเด็ดขาด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง ก่อนซื้อวิตามินหรือยาช่วยเรื่องการนอนหลับ…

อันตราย จากการใช้ “ยาระบาย”

รู้หรือไม่ว่ายาระบายบางประเภทอาจทำให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ลดลงมากกว่าปกติ หรือทำให้เยื่อบุผนังลำไส้เหี่ยว กล้ามเนื้อใต้เยื่อบุผิวลำไส้หนามากขึ้น ปมประสาทเสื่อมและเกิดการสูญเสียโปรตีนจากการดูดซึมที่ผิดปกติของลำไส้   การใช้ยาระบาย ควรใช้เป็นครั้งคราวและไม่ควรใช้ติดต่อกันอย่างยาวนาน มากสุดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพราะยาจะไปรบกวนการทำงานปกติของลำไส้ ถ้าไม่กินยาระบายเพื่อกระตุ้น ลำไส้ก็จะไม่ทำงาน ส่งผลเสียในระยะยาวไปอีก   จึงควรมีการเลือกใช้ยาระบายอย่างระมัดระวัง เพราะยาระบายมีหลายชนิด ทั้งยังออกฤทธิ์ต่างกัน ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ และควรดูแลตัวเองด้วยการเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อให้อุจาระจับตัวกันเป็นก้อนอย่างกลมเกลียวสามัคคี มีความอ่อนนุ่ม และใยอาหารยังเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดี (Probiotics) ทำให้แบคทีเรียเติบโต และแบ่งจำนวนได้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีก้อนอึที่ใหญ่และนุ่มขึ้น ก็จะกระตุ้นให้การขับถ่ายเราดีได้โดยธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาระบายใด ๆ   แต่หากไม่ถ่ายสักที ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและรักษาอาการของเราได้อย่างตรงจุด เพื่อความปลอดภัยกว่าการเลือกใช้ยาระบายด้วยตัวเอง     ที่มา : www.interpharma.co.th