จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก ครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดวิกฤติมากอีกครั้งหนึ่ง เพราะโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศ ประกาศขาดเลือดพร้อม ๆ กัน ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ อีกทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ได้ยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด และสถาบันการศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาควันละ 700-900 ยูนิตเท่านั้น โดยลดลงมากถึงร้อยละ 50 หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ 12 แห่ง และหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ทุกแห่ง มีมาตรการและแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริจาคโลหิต ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยยังคงรักษามาตรการและสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ สุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
ผู้บริจาคโลหิตต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามความเป็นจริง หากไม่แน่ใจควรงดการบริจาคโลหิตชั่วคราว เพื่อเว้นระยะเวลาการพบเชื้อ 4 สัปดาห์ และใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เดินทางมา บริจาคโลหิต
จากกรณีที่มีข่าวว่าบุคลากรสภากาชาดไทยติดโรคโควิด-19 นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า “มีบุคลากรสภากาชาดไทยติดโรคโควิด-19 จริง และได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว แต่ในส่วนของการบริจาคโลหิต ณ อาคารศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่มีบุคลากรคนใดที่ติดโรคโควิด-19 แม้แต่คนเดียว เนื่องจากมีมาตรการกับบุคลากรอย่างเข้มงวด ได้แก่
- บุคลากรที่มีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้กักกันตัว ปฏิบัติงานที่บ้าน ไม่ต้องเข้ามาปฏิบัติงานที่ศูนย์ฯ/ภาคฯ
- จัดรถ รับ-ส่ง บุคลากรกรณีที่ไม่มีรถส่วนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
- บุคลากรทุกคนต้องวัดไข้ก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงานทุกครั้ง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ - บุคลากรทุกคน ต้องไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือแหล่งที่มีผู้คนจำนวนมาก
- บุคลากรนำอาหารจากบ้านหรือซื้ออาหารเข้ามารับประทาน ไม่ไปนั่งรับประทานที่ร้านอาหารภายนอก
โดยประชาชนสามารถบริจาคโลหิตได้ที่จุดรับบริจาคโลหิตที่อยู่ใกล้และเดินทางสะดวก ได้แก่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานที่รับบริจาคโลหิต คลิก หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2256 4300 หรือ 1664