องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปีเป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) สถานเสาวภา สภากาชาดไทย เป็นสถาบันวิจัยร่วมกับองค์การอนามัยโลกในการศึกษาวิจัยด้านพยาธิกำเนิดและการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้การรักษา ผู้ที่สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย และเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 เป็นต้นมา
ในปีนี้ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายหลัก ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอีก 8 หน่วยงาน ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) ประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ณ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย เพื่อเน้นเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้คนไทยตระหนักถึงความรุนแรงของโรคพิษสุนัขบ้า การป้องกันตัวเองและสัตว์เลี้ยง ตามคำขวัญประจำปีที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก คือ “Share the message, Save a life” หรือ “เผยแพร่ข่าวสาร สื่อสารเภทภัย ปลอดจากภัยพิษสุนัขบ้า” พร้อมแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “คาถา 5 ย.” เพื่อลดความเสี่ยงจากการรับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย พร้อมด้วยแพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าว
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าจากหน่วยงานต่าง ๆ ขบวนพาเหรดรณรงค์วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก การประกวดภาพถ่ายมือสมัครเล่นในหัวข้อ “เพราะเธอคือเพื่อน” การประกวดภาพถ่ายเซลฟี่ในหัวข้อ “หมาแมวเพื่อนรัก” กิจกรรมบันเทิงบนเวทีโดยศิลปินจิตอาสา อาทิ โอ้ เสกสรรค์ คิง เดอะวอยซ์ จากโมโนมิวสิค จุ้มจิ้ม กิตติลักษณ์ AF1 และจีน พัทธนันท์ AF1 นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า และการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบล่วงหน้าแก่บุคคลทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย แถลงว่า “ตามที่องค์การอนามัยโลกได้รายงานสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าด้วยยอดผู้เสียชีวิตกว่า 70,000 รายต่อปีทั่วโลก ผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งอยู่ในทวีปเอเชียและอีกเกือบครึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกา คนอาจจะรู้สึกว่าโรคพิษสุนัขบ้าเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้ที่จริงแล้วยังมีเพื่อนมนุษย์เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าทั่วโลกเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คนอยู่ในปัจจุบันนี้ ดังนั้นโรคพิษสุนัขบ้าจึงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ และควรจะได้รับการแก้ไขจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ที่ก่อโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว วัว ควาย ลิง ชะนี กระรอก กระแต กระต่าย หนู ค้างคาว รวมถึงคนด้วย หากคนถูกสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือมีแผลถลอกที่ถูกน้ำลายของสัตว์แล้ว เชื้อไวรัสจะเดินทางจากบาดแผลไปตามเส้นประสาทและเข้าสู่สมอง เมื่อเกิดอาการป่วย ขึ้นจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ และต้องเสียชีวิตทุกราย”
แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค ร่วมแถลงว่า “เป้าหมายของการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย คือการป้องกันการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวัลยลักษณ์ อัครราชกุมารี สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า ในปี พ.ศ. 2560 มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กันยายน 2561 มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 16 รายจาก 14 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์และระยอง จังหวัดละ 2 ราย สุรินทร์ สงขลา ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง หนองคาย ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ตาก และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โดยได้รับเชื้อจากสุนัข 15 ราย แมว 1 ราย เป็นสัตว์มีเจ้าของถึงร้อยละ 60 ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดนี้ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และมากกว่าร้อยละ 90 ไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งถูกสุนัขที่ตนเองเลี้ยง กัด ข่วน และคิดว่าไม่เป็นไรจึงทำให้ไม่เข้ารับการรักษา”
ในปี พ.ศ. 2560 กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการสำรวจความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชนทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 60 คิดว่าโรคพิษสุนัขบ้าสามารถรักษาให้หายได้ ร้อยละ 20 คิดว่าการใช้รองเท้าตบแผลสามารถกำจัดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ และร้อยละ 40 คิดว่าลูกสุนัขจะไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น จึงขอให้ประชาชนร่วมกันดำเนินการเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าใน 4 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1) เจ้าของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 2-4 เดือน แล้วฉีดซ้ำตามกำหนดนัดทุกปี 2) ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านตามลำพังโดยไม่ใส่สายจูง เพราะอาจถูกสุนัขจรจัดที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัดได้ 3) ช่วยกันลดจำนวนสุนัขที่ไม่มีเจ้าของหรือสุนัขที่ไม่มีผู้รับผิดชอบโดยการทำหมันถาวร และ 4) ลดความเสี่ยงจากการถูกสุนัขกัดหรือป้องกันด้วย “คาถา 5 ย.” คือ อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห โกรธ อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่าง ๆ ตกใจ อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบ ชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร และอย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่าง ๆ ที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่ทราบประวัติ นอกจากนี้ เมื่อถูกสุนัขหรือแมว กัด ข่วน ต้องล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด ใส่ยารักษาแผลสด กักสุนัขหรือแมวไว้ดูอาการ 10 วัน ไปพบแพทย์เพื่อรับการศึกษาที่ถูกต้อง และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบตามนัด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 0 2252 0161-4 หรือ 1664