สัตว์เลี้ยงบำบัด: เพื่อนคู่ใจที่ช่วยเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ

คุณรู้หรือไม่ว่า… “สัตว์เลี้ยงบำบัด” หรือที่หลายคนเรียกว่า Therapy Animals กำลังกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกเสริมในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ไม่เพียงช่วยบรรเทาความเครียดทางจิตใจ แต่ยังส่งผลดี  ต่อสุขภาพร่างกายอย่างชัดเจนอีกด้วย ปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ได้เริ่มนำสัตว์บำบัดมาใช้ร่วมกับการรักษา          ในโรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุ หรือศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้งในด้านร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย งานวิจัยพบว่า สัตว์บำบัดช่วยลดความเครียดและภาวะวิตกกังวลได้จริง จากงานวิจัยเรื่อง “Psychiatric Assistance Dog Use for People Living With Mental Health Disorders” ที่ศึกษาในประเทศออสเตรเลีย โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ป่วยปัญหาสุขภาพจิต 200 คน ได้แก่ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และภาวะเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) พบว่า มากถึง 94% ของผู้เข้าร่วมการศึกษารายงานว่าความเครียดและความวิตกกังวลลดลง เมื่อได้มีปฏิสัมพันธ์กับสุนัขบำบัด แสดงให้เห็นว่าสุนัขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนคลายเหงา แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วยอีกด้วย  สัตว์บำบัดช่วยเราอย่างไรบ้าง? 💕 เยียวยาจิตใจ งานวิจัยทางจิตวิทยาหลายชิ้นยืนยันว่า การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ชิดช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น โดยส่งผล   ต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น…

รู้จักโรคงูสวัดก่อนสาย ป้องกันไว้ ใจสบายกว่า

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคงูสวัดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ข้อมูลทั่วโลกพบว่าโรคนี้เกิดขึ้นประมาณ 3 – 5 คนต่อประชากร 1,000 คนต่อปี และในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ตัวเลขนี้อาจเพิ่มเป็น 7–12 คนต่อ 1,000 คนต่อปี นอกจากนี้ พบว่าผู้หญิงมีโอกาสเป็นงูสวัดมากกว่าผู้ชาย งูสวัด (Shingles) หรือในชื่อทางการแพทย์ว่า Herpes Zoster เป็นโรคที่เกิดจากไวรัส                    ชื่อ Varicella-Zoster ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เราเป็นโรคอีสุกอีใสในวัยเด็ก แม้ว่าอีสุกอีใสจะหายแล้ว แต่ไวรัสนี้ยังคงแฝงตัวอยู่ในร่างกาย โดยไปซ่อนอยู่ในปมประสาท และเมื่อร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันลดลง ไวรัสก็อาจกลับมาก่อโรคอีกครั้งในรูปแบบของ “งูสวัด” อาการ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของโรคงูสวัด ควรสังเกตและรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม ปวดแสบปวดร้อนก่อนผื่นขึ้น เริ่มต้นด้วยอาการปวดแสบ เสียวแปลบ หรือปวดลึกบริเวณผิวหนัง โดยมักเกิดขึ้นตามแนวเส้นประสาท และเกิดก่อนที่จะเห็นผื่นหรือตุ่มน้ำ มีผื่นหรือตุ่มน้ำใสเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย ตุ่มน้ำใสจะขึ้นเรียงตัวตามแนวเส้นประสาท เช่น บริเวณลำตัวหรือใบหน้า มักเกิดแค่ซีกใดซีกหนึ่ง ไม่ลามทั้งสองข้าง…

โรคจูบไม่ได้หวานอย่างที่คิด รู้ทันโรคติดเชื้อจากไวรัส EBV

หลายคนอาจมองว่า “จูบ” เป็นการแสดงความรัก ความใกล้ชิด หรือความผูกพันระหว่างคนสองคน แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังความโรแมนติกนี้ อาจแฝงด้วยภัยเงียบที่ไม่ทันระวัง หนึ่งในโรคที่สามารถติดต่อผ่านการจูบได้คือ โรคจูบ (Kissing Disease) หรือชื่อทางการว่า โรคโมโนนิวคลิโอซิส (Infectious Mononucleosis: IM) โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส เอปสไตน์-บาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านสารคัดหลั่ง โดยเฉพาะ น้ำลาย การติดต่อมักเกิดจากการจูบ การไอ จาม หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ แม้โรคจูบจะสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะคือ เด็กเล็ก เช่น ในกรณีที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่หอมแก้มเด็ก เด็กอาจได้รับเชื้อโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและระมัดระวัง เพราะแม้จะเป็นเพียงพฤติกรรมเล็กๆ แต่ก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ไม่คาดคิดได้ อาการของการติดเชื้อจากโรคจูบ มักจะคล้ายกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก                       โดยอาการหลัก ๆ มีดังนี้ ไข้สูง โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เจ็บคอ อาจคล้ายกับการติดเชื้อคออักเสบจากแบคทีเรีย (เช่น ทอนซิลอักเสบ) ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ อ่อนเพลีย…

รักตับต้องลด Junk Food เริ่มก่อนที่ไขมันจะพอก

ในยุคที่ชีวิตหมุนเร็วและเร่งรีบ หลายคนเลือก “อาหารจานด่วน” เป็นทางออกของความหิว เพราะหาง่าย กินสะดวก และรสชาติดีจนติดใจไม่รู้ตัว แต่เบื้องหลังของความอร่อยที่ไม่ต้องรอนานเหล่านั้น กลับซ่อน “ภัยเงียบ” ที่ค่อย ๆ ทำลายสุขภาพอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เรียกได้ว่าเป็น Junk Food Lover คนที่บริโภคอาหารจานด่วนเป็นประจำจนกลายเป็นนิสัย

“HIV ≠ AIDS รู้จักให้ชัด ป้องกันได้ไม่ยาก”

“HIV ≠ AIDS รู้จักให้ชัด ป้องกันได้ไม่ยาก” ในสังคมไทยความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อ HIV และโรคเอดส์ (AIDS) ยังคงเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย หลายคนมักเข้าใจว่า HIV และ AIDS คือสิ่งเดียวกัน ซึ่งความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความกลัวหรือรังเกียจต่อผู้ที่ติดเชื้อโดยไม่จำเป็น แต่ยังอาจทำให้พลาดโอกาสในการป้องกันหรือเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า HIV และ AIDS แตกต่างกันอย่างไรพร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันที่ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างปลอดภัยและมีความเข้าใจที่ถูกต้อง HIV: เชื้อไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง AIDS: ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ HIV ที่ไม่ได้รับการรักษา ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายจน ไม่สามารถป้องกันโรคได้ ติดเชื้อ HIV ≠ AIDS “ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV” ที่เข้ารับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องสามารถมีชีวิตที่ดี และไม่พัฒนาเป็นเอดส์ U=U: “Undetectable = Untransmittable” หากตรวจไม่พบเชื้อในเลือด ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ใช้ชีวิตปกติ สร้างครอบครัวได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ความสำเร็จของ U=U เริ่มจากการกินยาต้านไวรัสสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพไม่ขาดตอน HIV ติดต่ออย่างไร?…

“บริการสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อคนข้ามเพศ แนวทางของคลินิกสุขภาพเพศที่เป็นมิตรในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์”

“บริการสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อคนข้ามเพศ แนวทางของคลินิกสุขภาพเพศที่เป็นมิตรในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” ในยุคที่ความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับมากขึ้น การเข้าถึงบริการสุขภาพที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) กลายเป็นสิ่งจำเป็น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย”  ทางการแพทย์ที่ทุกคนสามารถเข้ารับบริการได้อย่างไม่รู้สึกถูกตัดสินหรือเลือกปฏิบัติ จึงได้จัดตั้งคลินิกสุขภาพเพศที่เป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้บริการทางการแพทย์อย่างครอบคลุม โดยเน้นความเข้าใจในบริบทของแต่ละบุคคล และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คลินิกแห่งนี้ไม่เพียงให้บริการด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้บริการสามารถพูดคุย ปรึกษา และรับการดูแลอย่างเท่าเทียม เสมอภาค และปราศจากอคติ บทความนี้จะพาคุณ ไปรู้จักกับบริการของคลินิกสุขภาพเพศที่เป็นมิตรของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์กัน คลินิกสุขภาพเพศ ความร่วมมือร่วมใจของแพทย์สหสาขา จุดเด่นที่สำคัญประการหนึ่งของคลินิกสุขภาพเพศคือ การบริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลากหลายสถาบันที่จะมาให้คำแนะนำแก่ ผู้รับบริการ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากแพทย์ต่างสาขาที่เป็นเครือข่ายทำงานร่วมกันภายใต้คลินิกนี้ ดังนี้ ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ให้บริการด้านฮอร์โมนแก่ผู้รับบริการ รวมถึงให้คำปรึกษาทั้งระหว่างและภายหลังจากการใช้ฮอร์โมนเพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ ฝ่ายจิตเวชศาสตร์ ให้บริการในการประเมินความพร้อมก่อนการรับบริการ ทั้งในเรื่องการใช้ฮอร์โมนยืนยันอัตลักษณ์  ทางเพศ รวมถึงการผ่าตัดยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศ โดยมีจิตแพทย์ ให้บริการประจำคลินิกอันเป็นการลดระยะเวลาในการเข้ารับบริการ ได้เป็นอย่างดีพิจารณาว่าผู้รับบริการมีสภาพจิตใจที่ขัดแย้งกับเพศแต่กำเนิดหรือไม่ และอยากที่จะเป็นเพศใหม่ รวมทั้งความต้องการให้ทุกคนยอมรับและได้รับการปฏิบัติในแบบเพศใหม่ หน่วยศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง ฝ่ายศัลยศาสตร์ ให้บริการด้านผ่าตัดแปลงเพศด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย โดยทำงานควบคู่ไปกับแพทย์หน่วยงานอื่น ๆ   ที่จะประเมินความต้องการของผู้รับบริการว่าต้องการเข้ารับบริการโดยมีวัตถุประสงค์ใด เพราะความปรารถนาของผู้รับบริการแต่ละรายอาจมีความแตกต่างกันไป เช่น ผู้รับบริการที่ต้องการแปลงเป็นชายข้ามเพศอาจมีความต้องการเพียงตัดหน้าอกออกเท่านั้น แต่ไม่ได้ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ เป็นต้น หน่วยต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม…

มื้อเช้า…มื้อสำคัญ อย่างดอาหารเช้า ถ้าไม่อยากป่วย

มื้อเช้า…มื้อสำคัญ อย่างดอาหารเช้า ถ้าไม่อยากป่วย ในปัจจุบัน วิถีชีวิตที่เร่งรีบและความเครียดจากการทำงานหรือการเรียน ส่งผลให้หลายคนละเลยการรับประทานอาหารเช้า เพราะเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ เมื่อลุกขึ้นเคลื่อนไหว  ทำกิจกรรมต่าง ๆ จะรู้สึกหิว อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญต่อการเริ่มต้นกระบวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้นถ้าเราอดอาหารในมื้อเช้าอาจเป็นภัยเงียบส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ด้านความเสี่ยงโรคต่อร่างกาย โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทั้งจากเส้นเลือดแตกและตันในสมอง โรคเส้นเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ความเครียด จากการทำงานผิดปกติของสมองส่วนไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) และฮอร์โมน ด้านประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารเช้าช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจ จะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลง ลดโอกาสเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี อาหารเช้ากระตุ้นพลังสมอง ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

“สูบวันนี้ เสี่ยงโรคร้ายในวันหน้า: อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า”

“สูบวันนี้ เสี่ยงโรคร้ายในวันหน้า: อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า” บุหรี่ไฟฟ้า (Electronic Cigarettes หรือ E-Cigarettes) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสูบสารนิโคตินผ่านไอน้ำ ซึ่งแม้จะไม่มีการเผาไหม้และไม่ก่อให้เกิดควันเหมือนบุหรี่ทั่วไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยต่อสุขภาพ จากงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศพบว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับการรับสารเคมีอันตรายหลายชนิด เช่น นิโคติน ฟอร์มาลดีไฮด์ สารแต่งกลิ่น และโลหะหนัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังในระยะยาว บุหรี่ไฟฟ้าใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบด้วยสารเคมีต่าง ๆ ได้แก่ นิโคติน (Nicotine) เป็นสารออกฤทธิ์ทางประสาทที่พบได้ในใบยาสูบตามธรรมชาติ และถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ทั่วไป แต่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงมีนิโคตินเป็นองค์ประกอบหลัก โดยอยู่ในรูปแบบของ “นิโคตินเกลือ (nicotine salt)” หรือ “นิโคตินเบส (freebase nicotine)” ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วผ่านทางปอด รวมถึงกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โพรพิลีนไกลคอล (Propylene Glycol) เป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและละลายสารได้ดี ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอาง แต่การสูดดมซ้ำ ๆ เข้าสู่ทางเดินหายใจ…

“หน้าร้อนนี้ระวัง! โรคผิวหนังที่คุณไม่ควรมองข้าม”

“หน้าร้อนนี้ระวัง! โรคผิวหนังที่คุณไม่ควรมองข้าม” อากาศร้อนจัดและแสงแดดที่แผดเผาสามารถทำให้ผิวหนังของเราได้รับผลกระทบอย่างไม่คาดคิดจากการที่เหงื่อออกมากจนเกิดการระคายเคืองหรือผื่นคัน ไปจนถึงการเผชิญกับโรคผิวหนังต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นในช่วงนี้ ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับโรคผิวหนังที่ควรระวังในหน้าร้อนกัน การเกิดแดดเผา ในคนที่ผิวขาวและไม่ได้สัมผัสแสงแดดมานาน การตากแดดปริมาณมากเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดภาวะ “แดดเผา” ได้ ทำให้เกิดผื่นแดงบวม บางรายเป็นตุ่มน้ำพองบริเวณที่ถูกแดด การทาครีมกันแดดหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดที่มากจะช่วยลดการเกิดปัญหานี้ได้ การตากแดดเป็นเวลานานทำให้เกิดฝ้า กระ ผิวหนังเหี่ยวย่น และเสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย กลาก เกิดจากในบางส่วนของร่างกายมีความอับชื้นเป็นเวลานานมักพบตามลำตัว เท้า ขาหนีบ และหากมีเชื้อราเข้ามาร่วมด้วยจะมีอาการคันมากยิ่งขึ้น ผด เกิดจากการอุดตันและอักเสบของต่อมเหงื่อ ทำให้มีผดเม็ดเล็ก ๆ แดง ๆ หรือเป็นเม็ดใส ๆ ขึ้นบริเวณ    ส่วนต่าง ๆของร่างกาย เกลื้อน เกิดจากการสะสมของเชื้อราทำให้มีลักษณะเป็นวงสีขาว หรือน้ำตาลหรือดำ หลาย ๆ จุดมักเกิดบริเวณหลัง หน้าอก ท้องและในบริเวณร่มผ้า โรคผิวหนังในช่วงหน้าร้อนสามารถป้องกันได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และรักษาความสะอาด     ของร่างกาย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่อับเหงื่อหรืออับชื้น แต่หากมีอาการควรปรึกษาแพทย์   ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์…

“ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น! Tips รับมืออากาศร้อน”

“ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น! Tipsรับมืออากาศร้อน” ในทุกปีที่ฤดูร้อนมาเยือนหลาย ๆ คนคงรู้สึกถึงความร้อนอบอ้าวที่แผ่กระจายไปทั่วจนแทบจะทนไม่ไหว การดูแลตัวเองในช่วงที่อากาศร้อนจัดจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความร้อนอาจส่งผลทั้งด้านสุขภาพและความสบายใจในบทความนี้ เราจะมาแชร์เคล็ดลับการรับมือกับอากาศร้อนที่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายและเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น ดื่มน้ำให้เพียงพอ อากาศร้อนทำให้ร่างกายสูญเสียเหงื่อและน้ำมากขึ้น การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและป้องกันอาการเหนื่อยล้า ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เลือกสวมเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ช่วยให้ร่างกายไม่ร้อนเกินไป และสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดร้อนจัด ถ้าเกิน 34 องศา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และถ้าเกิน 37 องศา ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และหากต้องอยู่กลางแดดร้อนจัดติดต่อกันนานควรสวมหมวกหรือกางร่ม สลับกับการพักเป็นระยะในที่ร่ม โดยช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุดจะอยู่ระหว่าง 10.00 – 16.00 น. พักผ่อนในที่ร่มหรือมีอากาศเย็น หาที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทหรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศหรือพัดลม จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับความร้อน รับมือกับความเครียดจากอากาศร้อน บางครั้งอากาศร้อนอาจทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดหรือเครียดได้ ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีผ่อนคลาย เช่น  การทำสมาธิ  ฟังเพลง หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ สามารถช่วยลดความเครียดได้ การรับมือกับความร้อนและอากาศร้อนนั้นไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการดูแลร่างกาย แต่ยังรวมถึงการดูแลจิตใจด้วย เพื่อให้การรับมือในทุกสถานการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ…