อยากกลับมาทำงานได้ ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น บางครั้งท้อมากจนถามตัวเองว่า ทุกวันนี้อยู่ไปทำไม หญิงชราอายุ 68 ปี ก่อนมองไม่เห็น มีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อราคาถูก เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีอาการตาแดงก่ำและปวดตามาก จึงไปซื้อยาตามร้านขายยามาหยอดตาเอง แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาล เมื่อเข้ารับการรักษาจึงทำให้รู้ว่า ตาขวาบอดเนื่องจากม่านตาเสื่อมไปแล้ว ส่วนตาซ้ายเป็นโรคต้อกระจก ทำให้ชีวิตยังพอมีความหวังด้วยตาที่เหลือเพียงข้างเดียว เมื่อปี 2559 เกิดอาการไออย่างหนักและล้มอย่างแรง ทำให้เส้นประสาทฝอยในตาแตก จากนั้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยรอเปลี่ยนกระจกตากับศูนย์ดวงตาฯ ซ้ำร้ายยังประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อปี 2560 ยิ่งส่งผลให้ตาซ้ายข้างที่เหลืออยู่แทบมองไม่เห็น ชีวิตเข้าสู่โลกมืดในที่สุด ปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ที่รอคอยดวงตาบริจาคด้วยความหวังในทุกวัน ดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก มองไม่เห็นใคร ที่พอเห็นได้ก็เป็นแค่เงา ๆ การมองไม่เห็นเป็นความทรมานยิ่งกว่าความทรมานใด ๆ เพราะเราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเต็มที่ ต้องคอยพึ่งพาอาศัยคนอื่นอยู่เสมอ คนที่ไม่มีครอบครัวก็ยิ่งแล้ว คงไม่รู้จะหันหน้าไม่พึ่งพาใครได้ หากท่านใดมีจิตเมตตา ขอเชิญชวนบริจาคดวงตาให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศที่ยังรออีกเป็นจำนวนมาก หากได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาและกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ก็อยากจะกลับมารับจ้างตัดเสื้อเหมือนเดิม จะได้มีรายได้เลี้ยงชีพตนเองได้ ส่วนคนที่รอกระจกตาเหมือนตนก็ขอให้อดทน เพราะชีวิตต้องมีความหวังต่อไป คุณรัสมี อารยะนรากูล ผู้ป่วยรอเปลี่ยนกระจกตา