สภากาชาดไทย สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
เมื่อวันที่ 18 ม.ค 2564 นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี โดยได้ทราบความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานตามโครงการฯ ดังนี้ 1.การคัดเลือกครูอาสาสอนหนังสือ/ภาษาไทยตามโครงการแก่เด็กนักเรียนและเยาวชนตามเป้าหมายพบว่าการใช้ครูอาสาหรือบุคคลที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ที่ว่างเว้นจากการสอนหนังสือตามปกติหรือการรับสมัครให้ครู/อาจารย์ที่เกษียณราชการหรือบุคคลที่มีความรู้ด้านการสอนหนังสือและมีจิตอาสาเข้าร่วมโครงการมาสอนเสริมแก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมายจะสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพเพราะทั้งครูอาสาและนักเรียนไม่ต้องเดินทางไกลจากที่พักสามารถนัดสถานที่และเวลาสอนเสริมได้สะดวกไม่เสียเวลาและไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณมากนัก 2.เพื่อให้การกำหนดหลักสูตรและวิธีการสอนเสริมภาษาไทยให้สอดคล้องสภาพปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ภาษาไทยของนักเรียนนั้น สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดมีข้อแนะนำว่าควรจัดนักเรียนเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้ 2.1 กลุ่มเด็กนักเรียนจากครอบครัวกลุ่มชาติพันธ์ุที่ใช้ภาษาชนเผ่าติดต่อสื่อสารกันในครอบครัวเกือบตลอด 24 ชั่วโมงประกอบกับมีภูมิลำเนาครอบครัวส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารไม่มีไฟฟ้าและไม่มีเครื่องมือสื่อสารต่างๆ จึงไม่ได้ยินเสียงภาษาไทยจากสื่อทีวีหรือวิทยุทำให้ไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันและการสื่อสารในครอบครัวก็ใช้ภาษาชนชาติพันธุ์ตนเองเท่านั้น นักเรียนกลุ่มนี้มีโอกาสใช้ภาษาไทยได้เมื่อมาโรงเรียนเท่านั้น 2.2 กลุ่มนักเรียนเป้าหมายที่มีวัฒนธรรมและการใช้ภาษาตามอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่แตกต่างจากนักเรียนทั่วไป เช่น นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เมื่อกลับไปบ้านหรือภูมิลำเนาของตนเองจะสื่อสารกับบุคคลในครอบครัวด้วยภาษามาลายูเดิมรวมทั้งบางครอบครัวอาจไม่สามารถมาเรียนหนังสือได้สม่ำเสมอเพราะต้องช่วยผู้ปกครองทำงานบ้าน แต่นักเรียนเหล่านี้ยังมีโอกาสได้ใช้และได้ฟังภาษาไทยจากสื่อภาษาไทยต่าง ๆ รวมทั้งในชุมชนข้างเคียงเมื่อกลับไปบ้านหรือภูมิลำเนามากกว่านักเรียนกลุ่มแรก 2.3 กลุ่มนักเรียนไทยทั่วไปที่ไม่สามารถใช้ภาษาไทยทั้งการอ่านและเขียนนั้น อาจเกิดจากมีปัญหาครอบครัวยากจนรายได้ไม่เพียงพอต้องขาดการเรียนไปช่วยผู้ปกครองทำงานทำให้ไม่มีเวลาเรียนได้เต็มตามหลักสูตรหรือมีปัญหาด้านการพัฒนาการทางการเรียนรู้ (LD) เป็นต้น นายกฤษฎา บุญราช กล่าวว่าจะนำผลการติดตามการดำเนินงานของโครงการฯที่จังหวัดนราธิวาสไปแนะนำเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆในการรับสมัครครูอาสาสอนเสริมภาษาไทยและปรับวิธีการ รวมทั้งเทคนิคการถ่ายทอดการใช้ภาษาไทยให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาของนักเรียนตามกลุ่มปัญหาต่างๆรวมทั้งจะเน้นให้เหล่ากาชาดจังหวัดคัดเลือกครูอาสาจากกลุ่มบุคคลในพื้นที่ก่อน เช่น กลุ่มครูที่เกษียณหรือบุคคลที่มีคุณวุฒิด้านการสอนและมีเวลาว่างพร้อมเป็นครูอาสาร่วมสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการข้างต้น สำหรับสถานที่และเวลาการสอนเสริมให้เหล่ากาชาดประสานงานกับครูใหญ่หรือผู้บริหารสถานศึกษาของนักเรียนเป้าหมายรวมทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขตต่างๆ/สำนักงาน กศน./สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/มหาวิทยาลัยในพื้นที่/หน่วยงาน ตชด. ตลอดจนภาคีเครือข่ายหน่วยงานต่างๆที่อาสาสมัครมาร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนกับสภากาชาดไทย เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชมรมครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นต้น…