เรื่องเล่า…จากศูนย์ดวงตา ตอน “นำพาชีวิตผู้ป่วยจากโลกมืด ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง”

ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508มีภารกิจหลักในการรับบริจาคดวงตาจากผู้มีกุศลจิต การจัดเก็บดวงตาจากผู้มีกุศลจิตเมื่อถึงแก่กรรมการนำดวงตามาวิเคราะห์ และมอบให้กับจักษุแพทย์ทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ในการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระจกตาพิการซึ่งจะมอบให้ตามลำดับคิวการจอง หลายคนคิดว่า คนตาบอดทุกชนิดสามารถเปลี่ยนดวงตาแล้วกลับมามองเห็นได้แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ดวงตา” มีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายกับลูกบอล ส่วนที่เปลี่ยนได้เรียกว่า“กระจกตา” มีลักษณะโค้งนูนใส อยู่ด้านหน้าตรงกลางของดวงตา ซึ่งการผ่าตัดนี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการมองเห็นของดวงตาผู้ป่วยยังดีอยู่ ดังนั้นคนตาบอดที่จะมารับการเปลี่ยนกระจกตาจะต้องมีสาเหตุจากกระจกตาเท่านั้น สถิติตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์ดวงตาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่ามีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา 1,217,213 ราย ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา 13,515 ราย และมีผู้ป่วยกระจกตาพิการที่รอดวงตาบริจาคเป็นจำนวนมากถึง 12,078 ราย ซึ่งต้องใช้เวลาในการรอคอยนานอย่างน้อย3-5 ปี เห็นได้ว่าการจัดเก็บเพื่อใช้ในการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตานั้น ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอรับดวงตาบริจาคโดยเฉพาะการเปลี่ยนกระจกตาในผู้ป่วยที่ตาบอดทั้ง 2 ข้างให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้งหลังจากเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน เมื่อมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลที่มีผู้ประสานงานในการเจรจากับญาติ และญาติมีความยินยอมในการบริจาคดวงตา ก็จะสามารถจัดเก็บดวงตามาได้ ซึ่งถือว่าญาติได้เป็นสะพานในการสร้างบุญครั้งสุดท้ายให้กับผู้เสียชีวิต ภายหลังเสียชีวิตดวงตาจะเริ่มเสื่อมสภาพและเน่าเปื่อย ดังนั้นเพื่อให้ดวงตาที่มีสภาพดีที่สุด จึงต้องจัดเก็บดวงตาให้เรียบร้อยภายใน 6-8 ชั่วโมง ญาติของผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา ควรโทรแจ้งศูนย์ดวงตาทันที หลังจากผู้บริจาคเสียชีวิต เพื่อให้ศูนย์ดวงตาได้จัดเก็บดวงตาโดยเร็วที่สุด กรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นโรคต้องห้ามจะไม่สามารถเป็นผู้บริจาคดวงตาได้ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี โรคซิฟิลิส โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต โรคติดเชื้อทางสมองบางชนิด โรคมะเร็งบางชนิด หรือโรคติดเชื้ออื่น…

สภากาชาดไทยให้บริการทางการแพทย์ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์

สภากาชาดไทย ร่วมออกร้านใน “งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 – 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า เพื่อเผยแพร่ภารกิจการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย เปิดให้คำปรึกษาทางการแพทย์และบริการตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนผู้มาเที่ยวชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับการออกแบบและการจัดกิจกรรมภายในร้านของสภากาชาดไทยในครั้งนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด “สภากาชาดไทย สุขศาลา และประชาชนริมน้ำ” ให้สอดคล้องกับแนวคิดของการจัดงาน “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จำลองบรรยากาศของการออกหน่วยแพทย์เรือพระราชทานเวชพาหน์ ให้บริการประชาชนโดยใช้ศาลาริมน้ำเป็นสถานที่ตรวจ และมีเรือเวชพาหน์จอดเทียบท่าศาลาของชุมชน ให้ประชาชนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ซึ่งสภากาชาดไทยได้รับพระราชทานเรือเวชพาหน์ (อ่านว่า เวด-ชะ-พา) จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2498 เพื่อใช้ในกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตามริมสองฝั่งคลอง ออกให้บริการประชาชนริมน้ำจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในร้านยังมีแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย สวมใส่เครื่องแบบโบราณยุคแรกของสภากาชาดไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนเพื่อการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีตามภารกิจของสภากาชาดไทย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจำลองบรรยากาศเป็น…

จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9

วันที่ 5 ธันวาคม 2561 เวลา 13.00 น. นายเตช บุนนาค ประธานคณะกรรมการจัดหาและบริการดวงตาแห่งสภากาชาดไทย เป็นประธานจัดกิจกรรม “จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการรักษา อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยกระจกตาพิการสามารถมองเห็นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมีพระราชวินัยสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โครงการ “จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9” ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย มีเป้าหมายในการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนผู้มีกุศลจิตได้มีส่วนร่วมกับศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ป่วยกระจกตาพิการ ตลอดจนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการบริจาคดวงตา ทั้งนี้ การดำเนินโครงการฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 มีเป้าหมาย คือ ผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา จำนวน 45,000 ราย…

เดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดิน 3 องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย

สภากาชาดไทย ครบรอบ 125 ปี เชิญคนไทยร่วมทำบุญใน “โครงการเดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดิน 3 องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย” หรือ “วิ่งกระตุกหัวใจ” เพื่อหารายได้ในการจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) เพื่อส่งต่ออุปกรณ์ช่วยชีวิตประชาชน ไปยังส่วนภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน  โดยจัดในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ภายในบริเวณสภากาชาดไทย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริเวณใกล้เคียง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ Fun Run ระยะทาง 3.9 กิโลเมตร และ Mini Marathon 10 กิโลเมตร ค่าสมัคร 800 บาท สนใจสมัครได้ที่ : Thai.run  www.thaiticketmajor.com ชั้น 1 อาคาร ภปร. โรงพยาบาลจุฬาลงกร์ สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย สอบถามข้อมูลและรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “กระตุกหัวใจ”…

กุลบุตร-กุลธิดา ประจำปี 2561 ตัวแทนเยาวชนจิตอาสาเผยแพร่ภารกิจกาชาด

สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย จัดโครงการสรรหา “กุลบุตรและกุลธิดากาชาด” ประจำปี 2561 – 2562 เพื่อสรรหาเยาวชนที่มีใจรักในการเป็นอาสาสมัคร มีความพร้อมที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สามารถสืบทอดอุดมการณ์ของกาชาดสู่เยาวชนรุ่นต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยให้แพร่หลาย รวมทั้งร่วมกิจกรรมที่สภากาชาดไทยจัดขึ้นอีกด้วย คณะกรรมการได้ดำเนินการคัดสรรเยาวชนที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติเหมาะสม และได้รับเกียรติจากหม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการ สภากาชาดไทย ฝ่ายการจัดหารายได้ เป็นประธานในการมอบรางวัลให้แก่ผู้ได้รับตําแหน่ง กุลบุตรและกุลธิดากาชาด รวมถึงรางวัลพิเศษ Smart, Strong, Samart ประจําปี 2561 ณ ห้องประชุมชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ดังต่อไปนี้ รางวัลกุลบุตรกาชาด ได้แก่ ​​นายณัฏฐพันธ์ แสงคำ จาก​​ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รางวัลกุลธิดากาชาด ได้แก่​​นางสาว​ชุติกาญจน์ เกียรติพันธุ์สดใส   ​จาก​​มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รางวัลรองกุลบุตรกาชาด ได้แก่ ​​นายศรัณญ์ ​โรจนบุรานนท์​ จาก ​​การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รางวัลรองกุลธิดากาชาด ได้แก่ ​​นางสาวปภาวรินท์ ณ พัทลุง​​ จาก ​​จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย…

ร่วมย้อนรำลึกค้นหา “มนต์เสน่ห์ งานกาชาด จากวันวาน สู่วันนี้” ณ สวนลุมพินี

กองอำนวยการจัดงานกาชาด สภากาชาดไทย กำหนดจัดงานกาชาดประจำปี 2561 ขึ้นภายใต้แนวคิด “125 ปี สภากาชาดไทย ร้อยดวงใจส่งต่อการให้ที่งดงาม” ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2561 ณ สวนลุมพินี ถนนพระรามที่ 4  เพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย โดยมี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิ สโมสร รวมถึงบริษัท และร้านค้าทั่วไปเข้าร่วมออกร้าน มนต์เสน่ห์ งานกาชาด จากวันวาน สู่วันนี้ กว่า 90 ปี ที่สภากาชาดไทยจัดให้มีงานกาชาด มหรสพการกุศลคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ครั้งแรกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2465 – 8 เมษายน 2466 ซึ่งสมัยนั้นใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันปีใหม่เรียกงานนี้ว่า “การรับประชาสมาชิก พ.ศ. 2466” มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประชาสมาชิกโดยเสียค่าบำรุง…

สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานในพิธีงาน 90 ปี สถานีกาชาดที่ 2 กรุงเทพฯ

วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2561) เวลา 09.09 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังสถานีกาชาดที่ 2 (สุขุมาลอนามัย) เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานในพิธีงานเฉลิมฉลองในโอกาส 90 ปี สถานีกาชาดที่ 2 กรุงเทพฯ (สุขุมาลอนามัย) ทรงเจิมป้ายอาคาร จำนวน 2 ป้าย คือ อาคาร “สมัยนวุติวัสส์” และ อาคาร “บริพัตรวรอุทิศ” ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายอาคารใหม่ และประทานพระโอวาทแก่ผู้มาร่วมในพิธี ต่อมา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้  นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ทูลถวายไทยธรรม ผู้มีจิตศรัทธาทูลถวายครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และประทานครุภัณฑ์ทางการแพทย์แก่สถานีกาชาดที่ 2 จากนั้น ประทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณ และเสด็จกลับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม   ประวัติของสถานีกาชาดที่ 2 กรุงเทพฯ (สุขุมาลอนามัย) สถานีกาชาดที่…

สภากาชาดไทยจัดงานใหญ่ เชิญคนไทยร่วมวิ่งกระตุกหัวใจไปด้วยกัน

  สภากาชาดไทยถือโอกาสครบรอบ 125 ปี จัดกิจกรรม “โครงการเดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดิน 3 องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย” หรือ “วิ่งกระตุกหัวใจ” ซึ่งเป็นกิจกรรมแรกภายใต้ “โครงการกระตุกหัวใจ เพื่อคนไทยทุกคน” โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อหารายได้ในการจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) จำนวน 1,500 เครื่อง โดยมีเป้าหมาย 125 ล้านบาท เพื่อส่งต่ออุปกรณ์ช่วยชีวิตประชาชน ไปยังส่วนภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน โดยประชาชนทั่วไปสามารถร่วมสมทบทุนในโครงการนี้ ผ่านทางธนาคาร ไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี สภากาชาดไทยเครื่องกระตุกหัวใจเพื่อคนไทยทุกคน สาขา สภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-304670-2 ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2562 นอกจากนี้สภากาชาดไทย ยังสนับสนุนให้คนไทยเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาทรัพยากรของประเทศชาติ ให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง อายุยืนยาว…

สภากาชาดไทย รณรงค์วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก 2561

                    องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปีเป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) สถานเสาวภา สภากาชาดไทย เป็นสถาบันวิจัยร่วมกับองค์การอนามัยโลกในการศึกษาวิจัยด้านพยาธิกำเนิดและการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้การรักษา ผู้ที่สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย และเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 เป็นต้นมา ในปีนี้ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายหลัก ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอีก 8 หน่วยงาน ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) ประจำปี 2561 เมื่อวันที่…

เรือพระราชทานเวชพาหน์ สืบสานพระราชปณิธาน ในหลวงรัชกาลที่ 9

วันที่ 26 กันยายน 2561 เวลา 08.30 น. ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ศุภวัฒน์ ชุติวงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เรือพระราชทานเวชพาหน์ ณ ท่าวาสุกรี เทเวศน์ กรุงเทพฯ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งจะออกให้บริการทางการแพทย์  ให้ความรู้เรื่องสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมสองฝั่งแม่น้ำลำคลอง ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 1-5 ตุลาคม 2561 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ  ทั้งสิ้น เรือพระราชทานเวชพาหน์ ปฏิบัติงานครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคม –17 กุมภาพันธ์ 2498 ที่จังหวัดนนทบุรี และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2-6 ตุลาคม 2560 ที่จังหวัดปทุมธานี ใน 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี…