สภากาชาดไทย รวมใจต้านภัยโควิด

สภากาชาดไทยผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า 10 ล้านชิ้น พร้อมสนับสนุนชุดธารน้ำใจแก่ผู้ถูกกักกันโรคที่ยากไร้

สภากาชาดไทย จัดโครงการ “ร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า” โดยจับมือกับกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า จำนวน 10 ล้านชิ้น ส่งมอบให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดของโรค จำนวน 1 ล้านคน รวม 2 ล้านชิ้น และมอบให้กับประชาชนทั่วทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้ครบ 10 ล้านชิ้น ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน           นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ในฐานะประธานกรรมการโครงการร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวฯ เป็นความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการช่วยกันส่งเสริมให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สภากาชาดไทยจัดทำขึ้น เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะนำ สามารถป้องกันการรับและการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19…

เลื่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่

ประกาศเลื่อนการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาวิทยาลัย ประกาศเลื่อนการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา (เป็นกรณีพิเศษ) ประจำปีการศึกษา 2562 ออกไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งนิสิตแพทย์และบุคลากร  

การบริจาคโลหิตลดลง ส่งผลต่อผู้ป่วยโรคเลือด

การบริจาคโลหิตลดลง 50 % ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเลือด

การบริจาคโลหิตลดลง 50% ส่งผลต่อผู้ป่วยโรคเลือดกว่า 1 หมื่นราย ที่ต้องรับเลือดในการรักษา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถหยุดการรับบริจาคโลหิตได้ เพราะยังมีผู้ป่วยต้องใช้โลหิตเป็นประจำ คือ ผู้ป่วยเด็กโรคเลือดกว่า 1 หมื่นราย ซึ่งไม่มียาชนิดใดรักษาได้นอกจากการรับโลหิตเท่านั้น ในภาวะวิกฤติ COVID-19 ส่งผลให้โลหิตในประเทศไทยเข้าขั้นขาดแคลน รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการจัดหาโลหิตบริจาคในแต่ละวัน จะต้องจัดหาให้ได้ 2,500 ยูนิต แต่ขณะนี้มีจำนวนลดลงกว่า 50% ไม่เพียงพอจ่ายให้กับผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้รับยีนธาลัสซีเมียจากพ่อและแม่ทำให้การสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ส่วนใหญ่มีอาการซีดตั้งแต่อายุขวบปีแรก ในรายที่เป็นชนิดรุนแรง ต้องได้รับการรักษาโดยการรับโลหิตเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หากไม่ได้รับโลหิต ผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตจะลดลง       ศ.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเลือด โรคมะเร็ง และชีวาภิบาล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2562 มีผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียที่ต้องได้รับโลหิตเป็นประจำ จำนวน…

สภากาชาดไทย เปิดรับบริจาคเพื่อร่วมสู้วิกฤติ COVID-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เริ่มขยายวงกว้างไปยังหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จึงได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อดังกล่าว สภากาชาดไทย จึงได้จัด “โครงการร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า” เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า ตามมาตรฐานที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด โดยมอบให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงผ่านเหล่ากาชาดจังหวัดทุกจังหวัด ทั้งนี้ สภากาชาดไทย จึงขอเชิญประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุนการจัดทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี ” สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 โดยขอรับใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ที่ [email protected] พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ในการจัดส่งใบเสร็จ และเบอร์โทรศัพท์ แนบหลักฐานการโอนเงิน พร้อมระบุ “เพื่อช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย”   นอกจากนี้ สภากาชาดไทยยังเปิดบัญชีรับบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนจัดซื้อหน้ากาก N95 ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี “สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน”…

องค์กรกาชาดระดมทุน

กลุ่มองค์กรกาชาด ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในการต่อสู้กับ COVID-19

กลุ่มองค์กรกาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ระดมทุนจำนวน 26,400 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในการต่อสู้กับ COVID-19 เจนีวา-กลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ประกาศระดมทุนฉุกเฉินจำนวน 800 ล้านสวิสฟรังก์ หรือประมาณ 26,400 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบางให้สามารถยับยั้งและฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) แม้ว่าเชื้อไวรัส COVID-19 จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่การช่วยให้ผู้คนเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นจะสามารถช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อและลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้น้อยลง ฟรานเซสโก ร็อกกา ประธานสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) กล่าวว่า “ภาวะการระบาดใหญ่ไปทั่วโลกในครั้งนี้กำลังทำให้ระบบสาธารณสุขทั่วทั้งระบบตกอยู่ในความเสี่ยง และสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระบบสาธารณสุขไม่เข้มแข็งหรือขาดแคลน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาคมจะต้องร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์และหยุดยั้งไวรัสนี้ให้ได้ ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เหมือนกัน แต่ผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้พลัดถิ่น ผู้ไร้บ้าน และผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ถือเป็นกลุ่มคนที่มีการติดเชื้อมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นกลุ่มคนที่เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขน้อยที่สุด และยังเป็นผู้ที่เดือดร้อนจากการสูญเสียรายได้มากสุดด้วย เราจะต้องไม่ลืมพวกเขา เราจะต้องเสริมกำลังสนับสนุนเหล่าอาสาสมัครสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงของเรา ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าของการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ให้แข็งแกร่ง” กลุ่มองค์กรกาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ มีการดำเนินงานแบ่งเป็นสามส่วน ได้แก่ การดำเนินงานโดยคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) และ สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงประจำแต่ละประเทศจำนวน 192 ประเทศ IFRC อยู่ระหว่างการระดมทุนจำนวน 550 ล้านสวิสฟรังก์…

สถานเสาวภา ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19

สถานเสาวภา ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สำหรับผู้มารับบริการฉีดวัคซีน ฝ่ายบริการและวิจัยคลินิก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับผู้มารับบริการฉีดวัคซีน โดย งดให้บริการชาวต่างชาติที่ได้รับวีซ่าท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศไทย งดให้บริการผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศไม่ถึง 14 วัน และงดให้บริการผู้ที่มีประวัติใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ที่เข้าข่ายหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากผู้มารับบริการยังอยู่ในระยะเวลา 14 วันหลังสัมผัสโรค พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนเวลาทำการ เป็น วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. และปิดทำการวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 สอบถามโทร. 0 2252 0161-4 และ 0 2252 0167 หรือ www.saovabha.com

อาจารย์ประพันธ์รับหนังสือขอโทษ

ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ฯ รับหนังสือขอโทษ หลังถูกกล่าวหากรณีพีทคนเลือดบวก

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รับหนังสือขอโทษจาก นายแพทย์ชเนษฎ์ ศรีสุโข จากกรณีแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กพาดพิงและกล่าวหาประเด็น “พีทคนเลือดบวก” ณ สำนักงานแพทยสภา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สืบเนื่องจากกรณีพีทคนเลือดบวกออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการตรวจไม่เจอเชื้อเอชไอวี (Undetectable) เท่ากับการไม่แพร่เชื้อเอชไอวี (Untransmittable) หรือ U=U ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษณ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางนั้น นายแพทย์ชเนษฎ์ ศรีสุโข ได้ใช้เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นพาดพิงและกล่าวหา ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ฯ โดยไม่ได้วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน จนนำไปสู่การร้องเรียนต่อแพทยสภา ทั้งนี้ นายแพทย์ชเนษฎ์ ศรีสุโข สำนึกผิด จึงได้ยื่นหนังสือขอโทษต่อ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย โดยหนังสือขอโทษมีข้อความดังนี้ “สืบเนื่องมาจากกรณีพีทคนเลือดบวกที่ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการตรวจไม่เจอเชื้อเอชไอวี (Undectatable) เท่ากับการไม่แพร่เชื้อเอชไอวี (Untransmittable) หรือ U=U ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษณ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง และข้าพเจ้าได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้บนเฟซบุ๊คภายใต้ชื่อ ชเนษฎ์ ศรีสุโข (Chanesd…

มาตรการสภากาชาดไทย ฉบับที่ 4

ประกาศสภากาชาดไทย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ฉบับที่ 4

ประกาศสภากาชาดไทย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ฉบับที่ 1  ประกาศสภากาชาดไทย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ฉบับที่ 2 ประกาศสภากาชาดไทย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ฉบับที่ 3

งดจัดงานวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะ

ประกาศงดจัดงานวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย

ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประกาศงดจัดงานวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประจำปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 

วอนบริจาคเลือด

กาชาดวางมาตรการเข้ม หน่วยรับบริจาคโลหิตทั่วประเทศปลอด COVID-19

กาชาดประกาศสร้างความเชื่อมั่นวางมาตรการเข้ม ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และหน่วยรับบริจาคทุกภาคบริการโลหิตทั่วประเทศเป็นสถานที่สะอาดปลอด COVID-19 วิกฤติ COVID-19 ส่งผลกระทบบริจาคโลหิตน้อย ไม่เพียงพอ วอนคนไทย ต้องช่วยกัน   ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยต้องช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ ชี้สถานการณ์การระบาด COVID-19 ส่งผลกระทบผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ได้รับโลหิตไม่ถึงวันละ 1,000 ยูนิต อยู่ในภาวะโลหิตสำรองไม่เพียงพอ พร้อมประกาศเป็นแกนกลางสร้างมาตรการเข้มเป็นสถานที่สะอาดปลอด COVID-19 สร้างความมั่นใจความปลอดภัยทั้งผู้บริจาคโลหิต และการส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยไปยังผู้ป่วยทั่วประเทศ    รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มส่งผลกระทบกับการบริจาคโลหิตภายในศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และหน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต จากเป้าหมายที่ต้องได้รับโลหิตวันละ 2,000-2,500 ยูนิต ได้รับโลหิตลดลงเฉลี่ยวันละ 1,400 ยูนิต ต่อเนื่อง 3 วัน อีกทั้งหลายหน่วยงานที่ได้นัดหมายล่วงหน้าในการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตแจ้งยกเลิกจำนวนมาก เนื่องจากมีการเฝ้าระวังการเข้าพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดทำให้จำนวนการบริจาคโลหิตลดลงต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ไม่ถึงวันละ 1,000 ยูนิต อยู่ในภาวะโลหิตสำรองไม่เพียงพอจ่ายให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาอย่างยิ่ง    …