ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย ครั้งที่ 331

วันที่ 24 ธันวาคม 2561 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากนั้นเสด็จขึ้นชั้น 12 และเสด็จเข้าห้องประชุมใหญ่ พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเหรียญกาชาดสรรเสริญ แก่ผู้เสี่ยงอันตราย ช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดพ้นอันตราย พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้ช่วยเหลืองานและสนับสนุนกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ผู้บริจาคเงิน และผู้บริจาคโลหิต ครบ 100 ครั้ง โอกาสนี้ยังได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินและสิ่งของ โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อสมทบกิจการต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย ได้แก่ สมทบทุนคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สมทบศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมทบทุนสนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง สมทบทุนสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์…

ICRC เปิดช่องทางการติดตามผู้สูญหายจากเหตุสึนามิอินโดนีเซีย

จากเหตุการณ์ภูเขาไฟอนัก กรากะตัว เกิดการปะทุ ทำให้เกิดสึนามิซัดชายฝั่งบริเวณช่องแคบซุนดา ระหว่างเกาะสุมาตรา และเกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 281 ราย  บาดเจ็บ 1,016 ราย และมีผู้สูญหายเป็นจำนวนมากที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวอันเป็นที่รัก ในการนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นสื่อกลางให้ผู้สูญหายจากเหตุสึนามิและครอบครัวได้กลับมาพบกันอีกครั้ง โดยมีช่องทางให้ประชาชนสามารถสืบหาญาติที่สูญหาย รวมถึงแจ้งสถานะของตนเองได้ ที่ familylink.icrc.org/lampung-banten   อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ familylinks.icrc.org จะใช้สืบหาติดตามผู้สูญหายจากเหตุภัยพิบัติ ปัญหาการสู้รบ และผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เท่านั้น

ทายาทเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย

วันที่ 18 ธันวาคม 2561 ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว “ทายาทเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย” ยืนยันความสำเร็จของเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์สามารถแก้ไขปัญหาภาวะมีบุตรยากให้กำเนิดทารกที่เจริญเติบโต เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถแต่งงานและให้กำเนิดบุตรที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ ณ ห้องประชุมจรัญพัฒน์ ชั้น 6 ตึกอุปการเวชชกิจ  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย จากความสำเร็จครั้งแรกของประเทศไทย ที่สามารถให้กำเนิดทารกเพศชายรายแรก  (นายปวรวิชญ์ ศรีสหบุรี) ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว ซี่งถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อการรักษาคู่สมรสที่มีภาวะการมีบุตรยาก ภายใต้การดูแลของทีมคณาจารย์แพทย์นำโดย ศ.กิตติคุณ นพ.ประมวล วีรุตมเสน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2530 ณ หน่วยชีววิทยาการเจริญพันธุ์ สาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ..ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องจนมีทารกที่เกิดจากเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณาจารย์แพทย์ได้ติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กหลอดแก้วรายแรกของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทางฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับทราบข่าวดีอีกครั้งที่ภรรยาของนายปวรวิชญ์ ศรีสหบุรี สามารถตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติและได้มาฝากครรภ์ตรวจติดตามอาหารที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จนกระทั่งในวันที่ 16…

หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ 2562…บรรเทาภัยหนาวชาวลำพูน

วันที่ 18 ธันวาคม 2561 สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ 2562” ณ จังหวัดลำพูน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และส่งเสริมสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น พลโทนายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ2562” โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ร่วมกับจังหวัดลำพูน กองทัพอากาศ  สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  บริษัท จีเอ็มเอ็มมีเดีย จำกัด (มหาชน) สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคมสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย มูลนิธิอิออนประเทศไทย บริษัท อิออนธนสินทรัพย์ จำกัด คุณภูพินธ์ ไค พร้อมด้วยกลุ่มอาสากาชาดไทยเชื้อสายอินเดีย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทมจำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาเรีย พิซเซเรีย แอนด์เรสเตอรองต์ จำกัด บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท…

ระดมความคิดเพื่อยกระดับสู่ความเป็นผู้นำด้านการปลูกถ่ายอวัยวะในเอเชีย

นับเป็นเวลากว่า 24 ปี ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับแจ้งผู้บริจาคอวัยวะ จัดสรรอวัยวะ รวมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลทั่วประเทศเมื่อมีผู้เสียชีวิตสมองตายที่ญาติมีความประสงค์จะบริจาคอวัยวะกับโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความเป็นธรรม เสมอภาค ไม่เลือกชั้น วรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา และไม่มีการซื้อขายอวัยวะ นายแพทย์วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า  “กระบวนการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ มีขั้นตอนการประสานงานทั้งในส่วนของโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคอวัยวะโรงพยาบาลที่ปลูกถ่ายอวัยวะ  ทีมแพทย์ผ่าตัด การจัดหายานพาหนะที่จำเป็นสำหรับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสมาชิกในการเดินทางไปทำการผ่าตัดยังโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคอวัยวะ และการจัดส่งอวัยวะที่ได้รับบริจาคไปยังโรงพยาบาลที่ปลูกถ่ายอวัยวะให้อวัยวะนั้นๆ มีคุณภาพดี ประสิทธิภาพดี และปลอดภัย โดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ รวมถึงประสานงานในทุกขั้นตอนเพื่อให้อวัยวะที่ได้รับจากผู้บริจาคนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างทันท่วงทีและเกิดประโยชน์อันสูงสุด”  ทั้งนี้กระบวนการรับบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายอวัยวะเป็นงานที่มีความท้าทายจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทยได้ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ซึ่งนอกจากดำเนินงานด้านการรับบริจาคอวัยวะจากผู้เสียชีวิตสมองตายแล้วยังจัดกิจกรรมวิชาการและการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานเพื่อพัฒนาศักยภาพทีมสุขภาพในเขตบริการให้สามารถดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นมา การดำเนินงานที่ผ่านมา ยังพบว่ามีอุปสรรคบางประการที่สามารถแก้ไขและพัฒนากระบวนการบริจาคอวัยวะต่อไปได้ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมก้าวสู่ยุคใหม่ ของการบริจาคอวัยวะ” เมื่อวันที่ 8…

เรื่องเล่า…จากศูนย์ดวงตา ตอน “นำพาชีวิตผู้ป่วยจากโลกมืด ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง”

ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508มีภารกิจหลักในการรับบริจาคดวงตาจากผู้มีกุศลจิต การจัดเก็บดวงตาจากผู้มีกุศลจิตเมื่อถึงแก่กรรมการนำดวงตามาวิเคราะห์ และมอบให้กับจักษุแพทย์ทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ในการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระจกตาพิการซึ่งจะมอบให้ตามลำดับคิวการจอง หลายคนคิดว่า คนตาบอดทุกชนิดสามารถเปลี่ยนดวงตาแล้วกลับมามองเห็นได้แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ดวงตา” มีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายกับลูกบอล ส่วนที่เปลี่ยนได้เรียกว่า“กระจกตา” มีลักษณะโค้งนูนใส อยู่ด้านหน้าตรงกลางของดวงตา ซึ่งการผ่าตัดนี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการมองเห็นของดวงตาผู้ป่วยยังดีอยู่ ดังนั้นคนตาบอดที่จะมารับการเปลี่ยนกระจกตาจะต้องมีสาเหตุจากกระจกตาเท่านั้น สถิติตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์ดวงตาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่ามีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา 1,217,213 ราย ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา 13,515 ราย และมีผู้ป่วยกระจกตาพิการที่รอดวงตาบริจาคเป็นจำนวนมากถึง 12,078 ราย ซึ่งต้องใช้เวลาในการรอคอยนานอย่างน้อย3-5 ปี เห็นได้ว่าการจัดเก็บเพื่อใช้ในการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตานั้น ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอรับดวงตาบริจาคโดยเฉพาะการเปลี่ยนกระจกตาในผู้ป่วยที่ตาบอดทั้ง 2 ข้างให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้งหลังจากเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน เมื่อมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลที่มีผู้ประสานงานในการเจรจากับญาติ และญาติมีความยินยอมในการบริจาคดวงตา ก็จะสามารถจัดเก็บดวงตามาได้ ซึ่งถือว่าญาติได้เป็นสะพานในการสร้างบุญครั้งสุดท้ายให้กับผู้เสียชีวิต ภายหลังเสียชีวิตดวงตาจะเริ่มเสื่อมสภาพและเน่าเปื่อย ดังนั้นเพื่อให้ดวงตาที่มีสภาพดีที่สุด จึงต้องจัดเก็บดวงตาให้เรียบร้อยภายใน 6-8 ชั่วโมง ญาติของผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา ควรโทรแจ้งศูนย์ดวงตาทันที หลังจากผู้บริจาคเสียชีวิต เพื่อให้ศูนย์ดวงตาได้จัดเก็บดวงตาโดยเร็วที่สุด กรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นโรคต้องห้ามจะไม่สามารถเป็นผู้บริจาคดวงตาได้ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี โรคซิฟิลิส โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต โรคติดเชื้อทางสมองบางชนิด โรคมะเร็งบางชนิด หรือโรคติดเชื้ออื่น…

สภากาชาดไทยให้บริการทางการแพทย์ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์

สภากาชาดไทย ร่วมออกร้านใน “งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 – 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า เพื่อเผยแพร่ภารกิจการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย เปิดให้คำปรึกษาทางการแพทย์และบริการตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนผู้มาเที่ยวชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับการออกแบบและการจัดกิจกรรมภายในร้านของสภากาชาดไทยในครั้งนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด “สภากาชาดไทย สุขศาลา และประชาชนริมน้ำ” ให้สอดคล้องกับแนวคิดของการจัดงาน “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จำลองบรรยากาศของการออกหน่วยแพทย์เรือพระราชทานเวชพาหน์ ให้บริการประชาชนโดยใช้ศาลาริมน้ำเป็นสถานที่ตรวจ และมีเรือเวชพาหน์จอดเทียบท่าศาลาของชุมชน ให้ประชาชนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ซึ่งสภากาชาดไทยได้รับพระราชทานเรือเวชพาหน์ (อ่านว่า เวด-ชะ-พา) จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2498 เพื่อใช้ในกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตามริมสองฝั่งคลอง ออกให้บริการประชาชนริมน้ำจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในร้านยังมีแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย สวมใส่เครื่องแบบโบราณยุคแรกของสภากาชาดไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนเพื่อการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีตามภารกิจของสภากาชาดไทย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจำลองบรรยากาศเป็น…

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นประธานงาน “เดิน-วิ่งการกุศลเทิดพระเกียรติองค์ราชูปถัมภ์ สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย”

วันที่ 16 ธันวาคม 2561 เวลา 06.15 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปยังศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานเปิดงาน “เดิน-วิ่งการกุศลเทิดพระเกียรติองค์ราชูปถัมภ์ สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย” ประจำปี 2561 รายได้โดยเสด็จพระกุศลตามพระอัธยาศัย โอกาสนี้ ได้ประทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณ จำนวน 10 ราย และฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการจัดงานฯ จำนวน 3 ชุด จากนั้น ทรงตัดแถบแพรเปิดงานเดิน-วิ่งการกุศลเทิดพระเกียรติองค์ราชูปถัมภ์ฯ และทรงพระดำเนินนำขบวน ตลอดระยะทาง 5 กิโลเมตร อีกทั้งยังทอดพระเนตรการแสดงจำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 รำพัด และชุดที่ 2 เชียร์ลีดเดอร์ และเสด็จกลับ กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลฯ ในครั้งนี้ สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทรงเป็นองค์ราชูปถัมภ์ โดยมี บุคลากรการแพทย์ การพยาบาล…

ทรงเปิดงาน “เดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดินสภากาชาดไทย”

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 เวลา 05.55 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “เดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดินสภากาชาดไทย” ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และทรงพระดำเนินนำขบวนตามเส้นทางระยะ 3.5 กิโลเมตร ​ ต่อมา เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงจุดเส้นชัยแล้ว นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานกรรมการอำนวยการโครงการเดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดินสภากาชาดไทย เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเหรียญเดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดิน สภากาชาดไทย และเสด็จพระราชดำเนินกลับ โครงการเดินวิ่ง 125 ปี 6 แผ่นดินสภากาชาดไทย แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 3.5 และ 10 กิโลเมตร…

จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9

วันที่ 5 ธันวาคม 2561 เวลา 13.00 น. นายเตช บุนนาค ประธานคณะกรรมการจัดหาและบริการดวงตาแห่งสภากาชาดไทย เป็นประธานจัดกิจกรรม “จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการรักษา อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยกระจกตาพิการสามารถมองเห็นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมีพระราชวินัยสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โครงการ “จากวันพระ…ถึงวันพ่อ ร่วมทอดผ้าป่าดวงตามหากุศล ปีที่ 9” ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย มีเป้าหมายในการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนผู้มีกุศลจิตได้มีส่วนร่วมกับศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ป่วยกระจกตาพิการ ตลอดจนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการบริจาคดวงตา ทั้งนี้ การดำเนินโครงการฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 มีเป้าหมาย คือ ผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา จำนวน 45,000 ราย…