99 ปียุวกาชาดไทย

27 มกราคม 2564 วันคล้ายวันสถาปนายุวกาชาดไทย

 27 มกราคม 2564 วันคล้ายวันสถาปนายุวกาชาด    “99 สู่ 100 ปี ยุวกาชาดไทย” 27 มกราคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนายุวกาชาดไทย …กิจการยุวกาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นโดยพระดำริของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2465 ในชื่อ “กองอนุสภากาชาดสยาม” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “กองอนุกาชาด” “กองยุวกาชาด” และ “สำนักงานยุวกาชาด” ในปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน   นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย กล่าวว่า สำนักงานยุวกาชาดมีภารกิจในการปลูกฝังอบรมและเผยแพร่ให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการและอุดมการณ์ของกาชาด มีศรัทธาต่อกาชาด และเข้าร่วมกิจกรรมกับสภากาชาดไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสำนักงานยุวกาชาดเน้นการอบรมอาสายุวกาชาดให้มีความรู้ ทักษะ สามารถพึ่งพาได้เรื่องปฐมพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุ อาสายุวกาชาดยังเป็นพลังสำคัญในการช่วยเหลือกิจการของสภากาชาดไทย ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นด้านการประชาสัมพันธ์เรื่องของการบริจาคโลหิต การส่งเสริมคุณภาพชีวิตในชุมชน ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 99 เรากำลังจะก้าวสู่ ปีที่…

ปล่อยคาราวานทางการแพทย์

ปล่อยขบวนคาราวานอุปกรณ์การแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนคาราวานพัสดุ ครุภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ร่วมกับ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา รศ.พญ.ภัณฑิลา หฤทัยวิจิตรโชค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ด้านจัดซื้อ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล บุคลากร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้บริหารสภากาชาดไทย สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย  มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สถาบันพระปกเกล้า รุ่นที่ 9 เพื่อเดินทางมอบให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งต่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ณ บริเวณด้านหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ปล่อยขบวนคาราวานพัสดุ…

พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์

พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยมี ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล รับพระราชทาน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ห้องประชุม 1210 ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564

กลุ่มองค์กรกาชาดแสดงความยินดีกับการเริ่มต้นบังคับใช้สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ (TPNW)

เจนีวา/นิวยอร์ค- กลุ่มองค์กรกาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศร่วมยินดีที่ในวันนี้สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์หรือ the Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons (TPNW) เริ่มมีผลบังคับใช้ โดยสนธิสัญญาตัวนี้จะห้ามการใช้ ข่มขู่ พัฒนา ผลิต ทดลองและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และ ยังกำหนดให้ชาติสมาชิกที่ร่วมลงนามไม่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือ โน้มน้าวใครก็ตามไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดในการเกี่ยวข้องกับกิจกรรมตามที่ระบุห้ามไว้ในสนธิสัญญา “วันนี้ถือเป็นชัยชนะของมนุษยชาติ สนธิสัญญานี้เป็นผลจากการดำเนินการมากว่า 75 ปี และกำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ในปัจจุบันนี้ อาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ทั้งทางด้านศีลธรรม ด้านมนุษยธรรม และด้านกฎหมาย สนธิสัญญาจะทำให้หัวรบนิวเคลียร์มีอุปสรรคทางกฎหมายและมีการตีตรามากขึ้นกว่าเดิม สนธิสัญญานี้จะช่วยให้เราจินตนาการถึงโลกที่ปราศจากอาวุธอันไร้ซึ่งมนุษยธรรมเหล่านี้ว่าเป็นเป้าหมายที่เราทำให้เกิดขึ้นได้จริง” ปีเตอร์ เมาเรอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) กล่าว   ปัจจุบันมี 51 ประเทศทั่วโลกที่ร่วมลงนามและให้สัตยาบันในสนธิสัญญาฉบับนี้ขณะที่อีก 35 ประเทศร่วมลงชื่อแต่ยังไม่ให้การรับรองสัตยาบัน ซึ่งกลุ่มองค์กรกาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศประสงค์ให้บรรดาผู้นำทั่วโลกรวมถึงประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองร่วมลงนามในสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวอันจะนำไปสู่หนทางในการทำให้โลกของเราปราศจากอาวุธร้ายแรงอย่างนิวเคลียร์ “การมีผลบังคับใช้ของตราสารกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศนี้เป็นการย้ำเตือนที่น่ายินดีและทรงพลังว่า ถึงแม้เราจะกำลังเผชิญกับภาวะความกังวลทั่วโลกในปัจจุบันก็ตาม แต่นโยบายการตกลงร่วมกันจากหลายฝ่ายจะช่วยให้เราก้าวผ่านปัญหาความท้าทายที่มีขนาดใหญ่และฝังรากลึกเหล่านี้ได้ ซึ่งเราควรใช้สมรรถภาพในการรวมตัวและประสานงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในห้วงเวลาที่เราเผชิญกับปัญหาความท้าทายอื่น ๆ ที่มีความร้ายแรงและเกิดขึ้นทั่วโลก” นายฟรานเซสโก รอคคา ประธานสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยวงวงเดือนแดงระหว่างประเทศกล่าวเพิ่มเติม…

รับมอบหน้ากากจากซีพี

รับมอบหน้ากากอนามัย Surgical mask จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อเหล่ากาชาดจังหวัด

วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 เวลา 11.00 น. นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย รับมอบหน้ากากอนามัย Surgical mask จำนวน 100,000 ชิ้น จากนายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และคณะ เพื่อมอบให้เหล่ากาชาดจังหวัด สำหรับมอบให้โรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมเข้มข้นสูงสุด เพื่อไว้ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID – 19 โดยมีผู้เข้าร่วมรับมอบ ประกอบด้วย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย นางทิพวิภา สุวรรณรัฐ ที่ปรึกษากิจการเหล่ากาชาดจังหวัด สภากาชาดไทย และรักษาการในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด และนางสุกานดา  วรเชษฐบัญชา ที่ปรึกษาสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ณ บริเวณหน้าสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ชั้น 8 อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน)  สภากาชาดไทย โดยขณะนี้ได้มอบให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน…

ลำพูน

สภากาชาดไทยเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นองค์การสาธารณกุศลระดับชาติ ดำเนินการโดยยึดหลักมนุษยธรรมตามหลักการกาชาดสากลและช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยกระจายความช่วยเหลือไปยังส่วนภูมิภาคผ่านสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอทั่วประเทศ ด้วยการร่วมมือกับหลายภาคส่วนและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ยากไร้และขาดแคลน อาทิ มอบชุดธารน้ำใจ กู้ชีวิตฝ่าวิกฤต COVID-19 พร้อมน้ำดื่ม และเข้าเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตนเอง ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือของแต่ละจังหวัด ระหว่างวันที่ 9-14 มกราคม 2564 ดังนี้ วันที่ 9 มกราคม 2564 เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม มอบชุดธารน้ำใจฯ พร้อมน้ำดื่ม แก่ผู้กักตนเอง ในพื้นที่ 12 อำเภอ จำนวน 692 ราย และวันที่ 11 มกราคม 2564 ในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ จำนวน 40 ราย   วันที่ 12 มกราคม 2564 เหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท มอบชุดธารน้ำใจฯ พร้อมน้ำดื่ม…

โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

สภากาชาดไทย สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร

เมื่อวันที่ 18 ม.ค 2564 นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี โดยได้ทราบความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานตามโครงการฯ ดังนี้ 1.การคัดเลือกครูอาสาสอนหนังสือ/ภาษาไทยตามโครงการแก่เด็กนักเรียนและเยาวชนตามเป้าหมายพบว่าการใช้ครูอาสาหรือบุคคลที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ที่ว่างเว้นจากการสอนหนังสือตามปกติหรือการรับสมัครให้ครู/อาจารย์ที่เกษียณราชการหรือบุคคลที่มีความรู้ด้านการสอนหนังสือและมีจิตอาสาเข้าร่วมโครงการมาสอนเสริมแก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมายจะสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพเพราะทั้งครูอาสาและนักเรียนไม่ต้องเดินทางไกลจากที่พักสามารถนัดสถานที่และเวลาสอนเสริมได้สะดวกไม่เสียเวลาและไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณมากนัก 2.เพื่อให้การกำหนดหลักสูตรและวิธีการสอนเสริมภาษาไทยให้สอดคล้องสภาพปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ภาษาไทยของนักเรียนนั้น สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดมีข้อแนะนำว่าควรจัดนักเรียนเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้ 2.1 กลุ่มเด็กนักเรียนจากครอบครัวกลุ่มชาติพันธ์ุที่ใช้ภาษาชนเผ่าติดต่อสื่อสารกันในครอบครัวเกือบตลอด 24 ชั่วโมงประกอบกับมีภูมิลำเนาครอบครัวส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารไม่มีไฟฟ้าและไม่มีเครื่องมือสื่อสารต่างๆ จึงไม่ได้ยินเสียงภาษาไทยจากสื่อทีวีหรือวิทยุทำให้ไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันและการสื่อสารในครอบครัวก็ใช้ภาษาชนชาติพันธุ์ตนเองเท่านั้น นักเรียนกลุ่มนี้มีโอกาสใช้ภาษาไทยได้เมื่อมาโรงเรียนเท่านั้น 2.2 กลุ่มนักเรียนเป้าหมายที่มีวัฒนธรรมและการใช้ภาษาตามอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่แตกต่างจากนักเรียนทั่วไป เช่น นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เมื่อกลับไปบ้านหรือภูมิลำเนาของตนเองจะสื่อสารกับบุคคลในครอบครัวด้วยภาษามาลายูเดิมรวมทั้งบางครอบครัวอาจไม่สามารถมาเรียนหนังสือได้สม่ำเสมอเพราะต้องช่วยผู้ปกครองทำงานบ้าน แต่นักเรียนเหล่านี้ยังมีโอกาสได้ใช้และได้ฟังภาษาไทยจากสื่อภาษาไทยต่าง ๆ รวมทั้งในชุมชนข้างเคียงเมื่อกลับไปบ้านหรือภูมิลำเนามากกว่านักเรียนกลุ่มแรก 2.3 กลุ่มนักเรียนไทยทั่วไปที่ไม่สามารถใช้ภาษาไทยทั้งการอ่านและเขียนนั้น อาจเกิดจากมีปัญหาครอบครัวยากจนรายได้ไม่เพียงพอต้องขาดการเรียนไปช่วยผู้ปกครองทำงานทำให้ไม่มีเวลาเรียนได้เต็มตามหลักสูตรหรือมีปัญหาด้านการพัฒนาการทางการเรียนรู้ (LD) เป็นต้น นายกฤษฎา บุญราช กล่าวว่าจะนำผลการติดตามการดำเนินงานของโครงการฯที่จังหวัดนราธิวาสไปแนะนำเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆในการรับสมัครครูอาสาสอนเสริมภาษาไทยและปรับวิธีการ รวมทั้งเทคนิคการถ่ายทอดการใช้ภาษาไทยให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาของนักเรียนตามกลุ่มปัญหาต่างๆรวมทั้งจะเน้นให้เหล่ากาชาดจังหวัดคัดเลือกครูอาสาจากกลุ่มบุคคลในพื้นที่ก่อน เช่น กลุ่มครูที่เกษียณหรือบุคคลที่มีคุณวุฒิด้านการสอนและมีเวลาว่างพร้อมเป็นครูอาสาร่วมสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการข้างต้น สำหรับสถานที่และเวลาการสอนเสริมให้เหล่ากาชาดประสานงานกับครูใหญ่หรือผู้บริหารสถานศึกษาของนักเรียนเป้าหมายรวมทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขตต่างๆ/สำนักงาน กศน./สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/มหาวิทยาลัยในพื้นที่/หน่วยงาน ตชด. ตลอดจนภาคีเครือข่ายหน่วยงานต่างๆที่อาสาสมัครมาร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนกับสภากาชาดไทย เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชมรมครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นต้น…

พิษโควิด คนบริจาคเลือดน้อย ขาดแคลนเลือดทุกกรุ๊ปขั้นวิกฤติ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก ครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดวิกฤติมากอีกครั้งหนึ่ง เพราะโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศ ประกาศขาดเลือดพร้อม ๆ กัน ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ อีกทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ได้ยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด และสถาบันการศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาควันละ 700-900 ยูนิตเท่านั้น โดยลดลงมากถึงร้อยละ 50 หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ 12 แห่ง และหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ทุกแห่ง มีมาตรการและแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริจาคโลหิต ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยยังคงรักษามาตรการและสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ สุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ผู้บริจาคโลหิตต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามความเป็นจริง หากไม่แน่ใจควรงดการบริจาคโลหิตชั่วคราว เพื่อเว้นระยะเวลาการพบเชื้อ 4 สัปดาห์ และใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เดินทางมา  บริจาคโลหิต  จากกรณีที่มีข่าวว่าบุคลากรสภากาชาดไทยติดโรคโควิด-19 นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง…