ยุวกาชาดเข้าพบกระทรวงแรงงาน

สำนักงานยุวกาชาด มอบผ้าสาลูแก่กระทรวงแรงงานเพื่อนำไปตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า

วันที่ 13 เมษายน 2563 นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย พร้อมด้วยผู้ประกอบการตัดเย็บเสื้อผ้าและสกรีนผ้า ประกอบด้วย บริษัท พีเอสเค การ์เม้นท์ จำกัด, บริษัท เทพวรรณ สปอตกรุ๊ป จำกัด และบริษัท มะลิกู๊ด (ประเทศไทย) จำกัด เข้าพบ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูง ในการมอบผ้าสาลู จำนวน 67 ม้วน เพื่อนำไปมอบให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศสำหรับตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัย จำนวน 100,000 ชิ้น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ต่อไป

พิธีมอบหน้ากาก

สภากาชาดไทยจัดพิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า

สภากาชาดไทย จัดพิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าตามโครงการสภากาชาดไทยร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า โดยจะมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งมอบให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดของโรค และมอบให้กับประชาชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด วันที่ 15 เมษายน 2563 นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า ตามโครงการ “สภากาชาดไทยร่วมใจป้องกันภัย COVID-19 ด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้า” แก่กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ล้านชิ้น โดยมีนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ในฐานะผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นผู้รับมอบ และมอบให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จำนวน 1 แสนชิ้น โดยมีนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย นายแผน วรรณเมธี…

เปิดรับอาสาสมัครทำ Face shield

เปิดรับอาสาสมัครทำ Face shield เพื่อส่งต่อให้แพทย์ พยาบาล

สภากาชาดไทย ร่วมกับ  MedAsa  ชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลจุฬาฯ  และบริษัทไปรษณีย์ไทย เปิดรับอาสาสมัครทำ Face shield เพื่อส่งต่อให้แพทย์ พยาบาล ตามโรงพยาบาลต่างๆ วันที่ 10 เมษายน 2563 สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ กลุ่ม MedAsa หรือ “สยามชีวาภิบาล” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการวิจัย สภากาชาดไทย เพื่อสร้างนวัตกรรมสำหรับงานอาสา ชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลจุฬาฯ  และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดรับอาสาสมัครทำ Face shield ที่บ้านเพื่อส่งต่อให้แพทย์ พยาบาล ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบันแพทย์และพยาบาลเป็นเสมือนด่านหน้าที่ต้องคอยรับมือกับโรค COVID-19 และ Face Shield คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ปกป้องแพทย์และพยาบาล ซึ่งขณะนี้ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการในการปฎิบัติงานสู้กับวิกฤต COVID-19 สิ่งที่เราคนไทยสามารถช่วยได้ในวิกฤตนี้คือ การจัดทำ Face Shield อยู่ที่บ้าน โดยผู้ที่สนใจสมัครเป็นอาสาสมัคร สามารถสมัครผ่าน https://medasa.org/ โดยอาสา ร่วมทำ Face shield…

เลือดขาด

คนไทยไม่ทิ้งกัน บริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วยได้ 3 ช่องทาง

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนคนไทยรวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกันบริจาคโลหิต อย่ารอให้ถึงวันที่ผู้ป่วยไม่มีโลหิตในการรักษา รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 เป็นเหตุให้ผู้บริจาคโลหิตมีความกังวลในการเดินทางมาบริจาคโลหิต ทำให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดลง การปรับขนาดหน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต จากจำนวน 200-300 คน ให้เล็กลง เหลือเพียง 30 คน จนขณะนี้มีปริมาณโลหิตไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 160 แห่ง ที่ต้องใช้โลหิตในการผ่าตัด รวมทั้งผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้โลหิตเป็นประจำ ปัจจุบันมีการเบิกขอใช้โลหิตมายังศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ เฉลี่ยวันละ 5,400 ยูนิตต่อวัน แต่สามารถจ่ายเลือดให้ได้เฉลี่ย 2,400 ยูนิตต่อวัน หรือร้อยละ 44 เท่านั้น จึงต้องจัดหาโลหิตให้เพียงพอต่อความต้องการอย่างเร่งด่วน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษา ร่วมบริจาคโลหิตได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ , สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค)…

ประชุมคณะทำงานโครงการอาสาร่วมใจ Fight COVID

ประชุมคณะทำงานโครงการอาสาร่วมใจ Fight COVID

วันที่ 7 เมษายน 2563 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ พร้อมด้วยคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะทำงานโครงการอาสาร่วมใจ Fight COVID เพื่อรับบริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย N95 และ ชุดป้องกันเชื้อโรค PPE สำหรับส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคหน้ากาก N95 และชุดป้องกันเชื้อโรค PPE สำหรับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศได้ที่ สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย อาคารจอดรถ 3 ชั้น 3 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร. 08 1917 0617 หรือ LINE…

สนับสนุนด้านการบริการโลหิต แก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต

สภากาชาดไทยให้การสนับสนุนด้านการบริการโลหิต แก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความร่วมมือด้านสาธารณสุข แก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต โดยสภากาชาดไทยได้จัดส่งอุปกรณ์รับบริจาคโลหิต เพื่อมอบให้ธนาคารเลือด ของโรงพยาบาลแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการรับบริจาคโลหิต เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 นายเอกพล พูลพิพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี เป็นผู้แทน สภากาชาดไทย มอบอุปกรณ์รับบริจาคโลหิตแก่นางแอนโตเนีย เดอ อเราโจ โตส เรส อมารอล (Elia Antonia de Araujo dos Reis Amaral) รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต โดยมีนายแพทย์แอนนิซีโอ คาร์โดโซ บาร์ริโต (Aniceto Cardoso Barreto) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่ง และนายแพทย์เมนเตส ปินโต (Mendes Pinto) ผู้อำนวยการธนาคารเลือด ร่วมพิธี รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตกล่าวซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือแก่ธนาคารโลหิตแห่งชาติติมอร์ และแสดงความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือ กับประเทศไทยด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง…

งดรับซากสัตว์

ประกาศงดรับซากสัตว์และสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคพิษสุนัขบ้านอกเวลาทำการ

ตามที่รัฐบาลได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรและได้ออกข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) และข้อกำหนดเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ฝ่ายชันสูตรและวิจัยโรคในสัตว์ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย จึงของดรับซากสัตว์และสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อรับบริการตรวจวินิจฉัยโรคพิษสุนัขบ้านอกเวลาทำการ ในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.30– 08.30 น. ของวันรุ่งขึ้น และปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สภากาชาดไทย ต้องการพลาสมาจากผู้ป่วย COVID-19 ที่หายแล้ว พร้อมเปิดลงทะเบียนออนไลน์

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนผู้ป่วยที่หายจากโรค COVID-19 กลับมาเป็นผู้ให้พลาสมาที่มีภูมิต้านทานต่อไวรัส นำไปใช้รักษาโรค และช่วยยับยั้งไม่ให้ปอดอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตได้ รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ การรักษาผู้ป่วยยังต้องพึ่งพาการให้ยารักษาตามอาการของผู้ป่วย และการผลิตวัคซีนยังอยู่ในกระบวนการของพัฒนาและวิจัยอย่างเร่งด่วน แต่ยังมีวิธีการรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่สามารถทำได้ทันทีอีกวิธีหนึ่ง คือ การนำพลาสมาจากผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่หายแล้ว นำไปใช้รักษาผู้ป่วยอาการรุนแรงได้ ดังนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ซึ่งทำหน้าที่ในการรับบริจาคพลาสมาเพื่อรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ อยู่แล้ว จึงขอรับบริจาคพลาสมาจากผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่หายดีแล้ว เพื่อนำไปช่วยรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ต่อไป โดยผู้ประสงค์จะบริจาคพลาสมา ต้องเป็นผู้ป่วยที่หายดีไม่มีอาการ ออกจากโรงพยาบาลและกักตัวที่บ้านครบ 14 วันแล้ว จึงจะสามารถมาบริจาคพลาสมาได้ หากมีผู้ที่บริจาคพลาสมาพิเศษนี้จำนวนเพิ่มมากขึ้น จะช่วยให้ผู้ป่วยในประเทศได้มีโอกาสการรักษาและรอดชีวิตจากโรค COVID-19 เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ…

พระราชทานพระราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วันที่ 6 เมษายน 2563 เวลา ​เวลา​ 10.24​ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข​ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท​ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ในการนี้ พระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ความว่า “มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ปัญหาก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งเรื่องโรคระบาดนี่ ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ เรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าเกิดมีความเข้าใจในปัญหา มีความเข้าใจ ไม่ใช่หมายความว่ายอมรับตามบุญตามกรรม แต่มีความเข้าใจในสถานการณ์ มีความเข้าใจในปัญหา และก็มีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็คือเข้าใจในปัญหานั่นเอง อันแรกก็เป็นอย่างนี้ อันที่ 2 ก็คือ…

covid-19 กับพื้นที่การสู้รบ

COVID-19 ภัยคุกคามต่อชีวิตของผู้คนในพื้นที่การสู้รบ

COVID-19 ภัยคุกคามต่อชีวิตของผู้คนในพื้นที่การสู้รบ จำเป็นต้องดำเนินการเร่งด่วนเพื่อรับมือ เจนีวา (ICRC) – คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ระบุว่าการต่อสู้กับ COVID-19 ในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ความขัดแย้ง จะเกิดขึ้นมิได้เลยหากรัฐต่างๆ รวมทั้งองค์กรด้านมนุษยธรรมไม่ร่วมมือกันหาทางรับมืออย่างเร่งด่วน การดำเนินการวางแผนป้องกันรวมถึงการรับมือกับเชื้อไวรัสจำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันทีก่อนที่มันจะแพร่กระจายเข้าไปในพื้นที่การสู้รบต่าง ๆ COVID-19 เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตผู้คนแม้ในประเทศที่มีระบบสุขภาพอันแข็งแกร่ง และภัยคุกคามดังกล่าวจะยิ่งส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงมากขึ้นในประเทศที่ระบบสุขภาพถูกสงครามบ่อนทำลาย ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีผู้เดือดร้อนจากสถานการณ์ความขัดแย้งอาศัยรวมกันอยู่อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำสะอาด สบู่ และยารักษาโรค นอกจากนั้น ระบบสุขภาพที่ถูกสถานการณ์ความขัดแย้งทำให้อ่อนแอลงยังเป็นเหตุทำให้ศักยภาพของการตรวจหาเชื้อ การบริหารจัดการ และการติดตามผู้ป่วยลดลงตามไปด้วย นั่นยิ่งทำให้ความเสี่ยงของการแพร่เชื้อมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม “COVID-19 สร้างภาระอันหนักหน่วงให้กับระบบสุขภาพ สถานบริการสุขภาพหลายแห่งที่เราลงพื้นที่ปฏิบัติงานขาดแคลนแม้กระทั่งโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยหนัก แต่สิ่งที่เราหวาดกลัวที่สุดก็คือ หากไม่มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ก็จะทำให้ชุมชนที่เปราะบางที่สุดในโลกถูกทำลาย” ปีเตอร์ เมาเรอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) กล่าว ผู้ที่อยู่ในสถานคุมขังและค่ายผู้พลัดถิ่นทั่วโลก คือกลุ่มคนที่ ICRC เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน เนื่องจากระบบสุขภาพในพื้นที่ที่มีการสู้รบในประเทศต่าง ๆ เช่น ซีเรีย เยเมน ซูดานใต้ ไนจีเรียตะวันออก และอัฟกานิสถาน ต่างไม่พร้อมที่จะรับมือกับจำนวนผู้ป่วยโรค COVID-19 อันล้นหลาม…