ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงบาตร เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2561 เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังด้านหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงบาตรพระสงฆ์จำนวน 100 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 โอกาสนี้ เลขาธิการสภากาชาดไทยทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของขวัญ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปฏิทินประจำปี 2562 จากนั้น พระราชทานพรปีใหม่ แก่บุคลากรสภากาชาดไทย ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่เฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จ เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดปี

ทรงเป็นประธานการประชุมสภาสถาบัน การพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ครั้งที่ 17

วันที่ 27 ธันวาคม 2561 เวลา 17.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นายกสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สภากาชาดไทย ทรงเป็นประธานการประชุมสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ครั้งที่ 17 โดยมี นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย อุปนายกสภาสถาบัน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรุณยุพา รอยกุลเจริญ อธิการบดีสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ เสด็จขึ้นชั้น 9  ทรงเป็นประธานการประชุมสภาสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ครั้งที่ 17 ตามระเบียบวาระ อาทิ           – ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการที่มีกรรมการสภาสถาบันเป็นองค์ประกอบ ได้แก่คณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีเสนอ (ร่าง) คู่มือการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดี คณะกรรมการบริหารงานบุคคลเสนอ (ร่าง) ระเบียบสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาในการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อต่อสัญญาปฏิบัติงานของบุคลากรสถาบัน           – การอนุมัติประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติ…

ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ครั้งที่ 1/2561

วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย และประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ณ ตึกวชิราลงกรณ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ต่อมา เสด็จเข้าห้องโถงชั้นล่าง ทอดพระเนตรการแสดงของเด็กในความอุปการะของมูลนิธิฯ และเสด็จเข้าห้องทรงงาน ชั้น 2 พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนโครงการต่างๆ ของมูลนิธิฯ พร้อมทั้งฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับผู้มีอุปการคุณ จำนวน 6 คณะ ได้แก่ (1) หม่อมหลวงสิริณา จิตตาลาน และครอบครัว (2) นางส่องศรี สุคนธชาติ และครอบครัว (3) นางนิภานันท์ ชูพจน์เจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด และคณะ (4) นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างแว่นท็อปเจริญ และคณะ (5)…

ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย ครั้งที่ 331

วันที่ 24 ธันวาคม 2561 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากนั้นเสด็จขึ้นชั้น 12 และเสด็จเข้าห้องประชุมใหญ่ พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเหรียญกาชาดสรรเสริญ แก่ผู้เสี่ยงอันตราย ช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดพ้นอันตราย พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้ช่วยเหลืองานและสนับสนุนกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ผู้บริจาคเงิน และผู้บริจาคโลหิต ครบ 100 ครั้ง โอกาสนี้ยังได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินและสิ่งของ โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อสมทบกิจการต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย ได้แก่ สมทบทุนคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สมทบศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมทบทุนสนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง สมทบทุนสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์…

ICRC เปิดช่องทางการติดตามผู้สูญหายจากเหตุสึนามิอินโดนีเซีย

จากเหตุการณ์ภูเขาไฟอนัก กรากะตัว เกิดการปะทุ ทำให้เกิดสึนามิซัดชายฝั่งบริเวณช่องแคบซุนดา ระหว่างเกาะสุมาตรา และเกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 281 ราย  บาดเจ็บ 1,016 ราย และมีผู้สูญหายเป็นจำนวนมากที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวอันเป็นที่รัก ในการนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นสื่อกลางให้ผู้สูญหายจากเหตุสึนามิและครอบครัวได้กลับมาพบกันอีกครั้ง โดยมีช่องทางให้ประชาชนสามารถสืบหาญาติที่สูญหาย รวมถึงแจ้งสถานะของตนเองได้ ที่ familylink.icrc.org/lampung-banten   อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ familylinks.icrc.org จะใช้สืบหาติดตามผู้สูญหายจากเหตุภัยพิบัติ ปัญหาการสู้รบ และผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เท่านั้น

ทายาทเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย

วันที่ 18 ธันวาคม 2561 ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว “ทายาทเด็กหลอดแก้วคนแรกของไทย” ยืนยันความสำเร็จของเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์สามารถแก้ไขปัญหาภาวะมีบุตรยากให้กำเนิดทารกที่เจริญเติบโต เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถแต่งงานและให้กำเนิดบุตรที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ ณ ห้องประชุมจรัญพัฒน์ ชั้น 6 ตึกอุปการเวชชกิจ  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย จากความสำเร็จครั้งแรกของประเทศไทย ที่สามารถให้กำเนิดทารกเพศชายรายแรก  (นายปวรวิชญ์ ศรีสหบุรี) ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว ซี่งถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อการรักษาคู่สมรสที่มีภาวะการมีบุตรยาก ภายใต้การดูแลของทีมคณาจารย์แพทย์นำโดย ศ.กิตติคุณ นพ.ประมวล วีรุตมเสน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2530 ณ หน่วยชีววิทยาการเจริญพันธุ์ สาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ..ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องจนมีทารกที่เกิดจากเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณาจารย์แพทย์ได้ติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กหลอดแก้วรายแรกของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทางฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับทราบข่าวดีอีกครั้งที่ภรรยาของนายปวรวิชญ์ ศรีสหบุรี สามารถตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติและได้มาฝากครรภ์ตรวจติดตามอาหารที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จนกระทั่งในวันที่ 16…

หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ 2562…บรรเทาภัยหนาวชาวลำพูน

วันที่ 18 ธันวาคม 2561 สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ 2562” ณ จังหวัดลำพูน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และส่งเสริมสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น พลโทนายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ2562” โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ร่วมกับจังหวัดลำพูน กองทัพอากาศ  สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  บริษัท จีเอ็มเอ็มมีเดีย จำกัด (มหาชน) สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคมสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย มูลนิธิอิออนประเทศไทย บริษัท อิออนธนสินทรัพย์ จำกัด คุณภูพินธ์ ไค พร้อมด้วยกลุ่มอาสากาชาดไทยเชื้อสายอินเดีย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทมจำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาเรีย พิซเซเรีย แอนด์เรสเตอรองต์ จำกัด บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท…

ระดมความคิดเพื่อยกระดับสู่ความเป็นผู้นำด้านการปลูกถ่ายอวัยวะในเอเชีย

  นับเป็นเวลากว่า 24 ปี ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับแจ้งผู้บริจาคอวัยวะ จัดสรรอวัยวะ รวมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลทั่วประเทศเมื่อมีผู้เสียชีวิตสมองตายที่ญาติมีความประสงค์จะบริจาคอวัยวะกับโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความเป็นธรรม เสมอภาค ไม่เลือกชั้น วรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา และไม่มีการซื้อขายอวัยวะ นายแพทย์วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า  “กระบวนการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ มีขั้นตอนการประสานงานทั้งในส่วนของโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคอวัยวะโรงพยาบาลที่ปลูกถ่ายอวัยวะ  ทีมแพทย์ผ่าตัด การจัดหายานพาหนะที่จำเป็นสำหรับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสมาชิกในการเดินทางไปทำการผ่าตัดยังโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคอวัยวะ และการจัดส่งอวัยวะที่ได้รับบริจาคไปยังโรงพยาบาลที่ปลูกถ่ายอวัยวะให้อวัยวะนั้นๆ มีคุณภาพดี ประสิทธิภาพดี และปลอดภัย โดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ รวมถึงประสานงานในทุกขั้นตอนเพื่อให้อวัยวะที่ได้รับจากผู้บริจาคนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างทันท่วงทีและเกิดประโยชน์อันสูงสุด” ทั้งนี้กระบวนการรับบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายอวัยวะเป็นงานที่มีความท้าทายจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทยได้ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ซึ่งนอกจากดำเนินงานด้านการรับบริจาคอวัยวะจากผู้เสียชีวิตสมองตายแล้วยังจัดกิจกรรมวิชาการและการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานเพื่อพัฒนาศักยภาพทีมสุขภาพในเขตบริการให้สามารถดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นมา   การดำเนินงานที่ผ่านมายังพบว่ามีอุปสรรคบางประการที่สามารถแก้ไขและพัฒนากระบวนการบริจาคอวัยวะต่อไปได้คณะกรรมการส่งเสริมกิจการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ“ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมก้าวสู่ยุคใหม่ ของการบริจาคอวัยวะ” เมื่อวันที่ 8พฤศจิกายน 2561…

เรื่องเล่า…จากศูนย์ดวงตา ตอน “นำพาชีวิตผู้ป่วยจากโลกมืด ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง”

ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508มีภารกิจหลักในการรับบริจาคดวงตาจากผู้มีกุศลจิต การจัดเก็บดวงตาจากผู้มีกุศลจิตเมื่อถึงแก่กรรมการนำดวงตามาวิเคราะห์ และมอบให้กับจักษุแพทย์ทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ในการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระจกตาพิการซึ่งจะมอบให้ตามลำดับคิวการจอง หลายคนคิดว่า คนตาบอดทุกชนิดสามารถเปลี่ยนดวงตาแล้วกลับมามองเห็นได้แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ดวงตา” มีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายกับลูกบอล ส่วนที่เปลี่ยนได้เรียกว่า“กระจกตา” มีลักษณะโค้งนูนใส อยู่ด้านหน้าตรงกลางของดวงตา ซึ่งการผ่าตัดนี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการมองเห็นของดวงตาผู้ป่วยยังดีอยู่ ดังนั้นคนตาบอดที่จะมารับการเปลี่ยนกระจกตาจะต้องมีสาเหตุจากกระจกตาเท่านั้น สถิติตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์ดวงตาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่ามีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา 1,217,213 ราย ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา 13,515 ราย และมีผู้ป่วยกระจกตาพิการที่รอดวงตาบริจาคเป็นจำนวนมากถึง 12,078 ราย ซึ่งต้องใช้เวลาในการรอคอยนานอย่างน้อย3-5 ปี เห็นได้ว่าการจัดเก็บเพื่อใช้ในการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตานั้น ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอรับดวงตาบริจาคโดยเฉพาะการเปลี่ยนกระจกตาในผู้ป่วยที่ตาบอดทั้ง 2 ข้างให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้งหลังจากเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน เมื่อมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลที่มีผู้ประสานงานในการเจรจากับญาติ และญาติมีความยินยอมในการบริจาคดวงตา ก็จะสามารถจัดเก็บดวงตามาได้ ซึ่งถือว่าญาติได้เป็นสะพานในการสร้างบุญครั้งสุดท้ายให้กับผู้เสียชีวิต ภายหลังเสียชีวิตดวงตาจะเริ่มเสื่อมสภาพและเน่าเปื่อย ดังนั้นเพื่อให้ดวงตาที่มีสภาพดีที่สุด จึงต้องจัดเก็บดวงตาให้เรียบร้อยภายใน 6-8 ชั่วโมง ญาติของผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา ควรโทรแจ้งศูนย์ดวงตาทันที หลังจากผู้บริจาคเสียชีวิต เพื่อให้ศูนย์ดวงตาได้จัดเก็บดวงตาโดยเร็วที่สุด กรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นโรคต้องห้ามจะไม่สามารถเป็นผู้บริจาคดวงตาได้ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี โรคซิฟิลิส โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต โรคติดเชื้อทางสมองบางชนิด โรคมะเร็งบางชนิด หรือโรคติดเชื้ออื่น…

สภากาชาดไทยให้บริการทางการแพทย์ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์

สภากาชาดไทย ร่วมออกร้านใน “งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 – 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า เพื่อเผยแพร่ภารกิจการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย เปิดให้คำปรึกษาทางการแพทย์และบริการตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนผู้มาเที่ยวชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับการออกแบบและการจัดกิจกรรมภายในร้านของสภากาชาดไทยในครั้งนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด “สภากาชาดไทย สุขศาลา และประชาชนริมน้ำ” ให้สอดคล้องกับแนวคิดของการจัดงาน “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จำลองบรรยากาศของการออกหน่วยแพทย์เรือพระราชทานเวชพาหน์ ให้บริการประชาชนโดยใช้ศาลาริมน้ำเป็นสถานที่ตรวจ และมีเรือเวชพาหน์จอดเทียบท่าศาลาของชุมชน ให้ประชาชนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ซึ่งสภากาชาดไทยได้รับพระราชทานเรือเวชพาหน์ (อ่านว่า เวด-ชะ-พา) จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2498 เพื่อใช้ในกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตามริมสองฝั่งคลอง ออกให้บริการประชาชนริมน้ำจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในร้านยังมีแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย สวมใส่เครื่องแบบโบราณยุคแรกของสภากาชาดไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ตรวจสุขภาพอนามัยเบื้องต้นให้กับประชาชนเพื่อการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีตามภารกิจของสภากาชาดไทย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจำลองบรรยากาศเป็น…