ภาพรวมมอบเงินช่วยเหลือ

รัฐบาลไทยมอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยในยูเครน ผ่านสภากาชาดไทย

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 รัฐบาลไทยมอบเงินจำนวน 2 ล้านบาท ให้กับสภากาชาดไทยเพื่อส่งต่อให้กับสภากาชาดยูเครน ในการสนับสนุนความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางมนุษยธรรมในยูเครน โดยมี นายศรัณย์  เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนส่งมอบเงินบริจาคดังกล่าวให้กับ ดร.อภิชาติ  ชินวรรโณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ณ กระทรวงการต่างประเทศ

บุคคลถ่ายภาพรวม

ผู้แทนสภากาชาดไทยเข้าร่วมการประชุมเรื่องกฎหมายด้านภัยพิบัติ

ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2566 พลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์  เข้าร่วมการประชุม บทบาทของกฎหมายด้านภัยพิบัติ ในการบรรเทาสาธารณภัยและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference on the Role of Disaster Law in Mitigating Disasters & Strengthening Climate Resilience)  ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือของ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กลุ่มการวิจัยภัยพิบัติ สถาบันแห่งกฎหมาย ภาวะฉุกเฉิน และภัยพิบัติ  สถาบันสังคมศาสตร์ และองค์กร Sphere แห่งสาธารณรัฐอินเดีย โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ และกฎหมายด้านภัยพิบัติระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

บุคคลถ่ายภาพรวมการประชุมสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 11 ที่เวียดนาม

สภากาชาดไทยเข้าร่วมการประชุมสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 11 ที่เวียดนาม

คณะผู้แทนสภากาชาดไทย นำโดย ดร.อภิชาติ ชินวรรโณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ เข้าร่วมการประชุมสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 11 (11th Asia Pacific Red Cross and Red Crescent Regional Conference) ซึ่งมีสภากาชาดเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2566 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยการประชุมในครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึง ประเด็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของสภากาชาดของประเทศต่าง ๆ อาทิ การให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้นำสตรี ความยั่งยืนด้านการหารายได้ การเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ และการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมระหว่างองค์กร เป็นต้น สำหรับการประชุมครั้งนี้ สภากาชาดไทยได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและกลุ่มผู้เปราะบางโดยการใช้แอปพลิเคชัน “พ้นภัย” และการใช้เทคโนโลยีพิสูจน์อัตลักษณ์ด้วยม่านตาและใบหน้าเพื่อช่วยในการให้วัคซีนแก่บุคคลที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน แรงงานข้ามชาติ รวมถึงผู้หนีภัยจากสถานการณ์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยฯ ยังได้เยี่ยมคารวะ นาย หวอ วัน เทือง ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวมถึงเข้าพบ นาง…

ภาพถ่ายรวม คณะผู้แทนสภากาชาดไทยร่วมศึกษาดูงานที่สภากาชาดเกาหลี และบริษัท GC Biopharma

คณะผู้แทนสภากาชาดไทยร่วมศึกษาดูงานที่สภากาชาดเกาหลี และบริษัท GC Biopharma

ระหว่างวันที่ 7–8 พฤศจิกายน 2566 คณะผู้แทนจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย นำโดย นพ. พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการฯ เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ณ สภากาชาดเกาหลี และบริษัท GC BioPharma ณ สาธารณรัฐเกาหลี เนื่องในวาระครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เกาหลี และ 12 ปีความสัมพันธ์สภากาชาดไทย-GC Biopharma เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยาจากพลาสมา ทั้งนี้ คณะผู้แทนฯ ได้เข้าเยี่ยมชมการผลิตยาที่โรงงาน GC Biopharma รวมถึงเข้าพบ Dr. Soyong Kwon ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยทางโลหิต สภากาชาดเกาหลี เพื่อหารือความร่วมมือในอนาคต จากนั้นคณะผู้แทนฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล

อาสาสมัครด้วยใจไปกับสภากาชาดไทย

“อาสาสมัครสภากาชาดไทย” หมายถึง บุคคลที่ร่วมทำงานอาสาสมัครกับสภากาชาดไทย เป็นผู้มีจิตอาสา มีเมตตา และศรัทธาในงานของสภากาชาดไทย ปรารถนาจะใช้เวลาสติปัญญา ตลอดจนความรู้ความสามารถเพื่อช่วยเหลือกิจการของสภากาชาดไทย โดยไม่หวังผลตอบแทนและการแสวงหาผลกำไร โดยไม่จำกัดอายุ เพศ อาชีพ ฐานะทางสังคม ภูมิลำเนา ศาสนา ชาติพันธุ์และความทุพพลภาพ แอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด” เป็นแอปพิเคชัน ที่นำมาใช้เพื่อให้ผู้ที่มีจิตอาสาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและร่วมกิจกรรมของสภากาชาดไทยได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพราะสามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลอาสาสมัครสภากาชาดไทย เป็นการรวบรวมประชาชนที่มีจิตอาสา พร้อมปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองภารกิจสภากาชาดไทย โดยสามารถมีส่วนร่วมในการทำงานอาสาสมัครสภากาชาดไทยได้อย่างง่าย ปัจจุบันมีจำนวนผู้มีจิตอาสาในระบบแล้วกว่า 82,269 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤสจิกายน 2566) โดยแอปพลิเคชัน อาสาสมัครกาชาด เป็นนวัตกรรมที่รวบรวมงานอาสาสมัครที่ตอบสนองภารกิจสภากาชาดไทยหลายรูปแบบ โดยประชาชนทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการส่งต่อความช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ตามความถนัดและความสนใจ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด” ผ่าน App Store และ Google Play ลงทะเบียนและเลือกเข้าร่วมทำกิจกรรมอาสาสมัครกับเราได้เลยแอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด” รวมทุกกิจรรมคนหัวใจอาสา สามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรม และการอบรมได้ทุกที่ ทุกเวลา นายสถิตย์ ไกรฤๅชา คือ หนึ่งในอาสาสมัคร…

ภ่ายถ่ายรวมบุคคล

สภากาชาดไทยส่งมอบเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมใหญ่ในลิเบีย

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ส่งมอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนบาท แก่ลิเบียผ่านการระดมทุนฉุกเฉินของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) โดยมี Ms. Caroline Holt ผู้อำนวยการด้านภัยพิบัติ สภาพภูมิอากาศ และวิกฤติ แห่ง IFRC เป็นผู้แทนรับมอบ โดยการระดมทุนในครั้งนี้จะใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของสภาเสี้ยววงเดือนแดงลิเบียในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมของลิเบีย จากเหตุการณ์พายุแดเนียลพัดถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 ส่งผลกระทบให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมและทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้เขื่อนสองแห่งในเมืองเดอร์นาพังทลาย มีผู้เสียชีวิต 9,730 ราย ผู้สูญหาย 25,000 ราย และมีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่าหนึ่งล้านคน รวมถึงสิ่งก่อสร้างอาคาร ระบบสาธารณูปโภคภายในเมืองต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ในขณะนี้สภาเสี้ยววงเดือนแดงลิเบียและ IFRC กำลังปฏิบัติการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

ภาพผู้ชายใส่สูทรกำลังนั่งพูดคุยกับผู้หญิง 2 คน

สภากาชาดไทยมอบเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ขัดแย้งในตะวันออกกลาง

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย สนับสนุนเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณหนึ่งล้านบาท ผ่านการระดมทุนฉุกเฉินของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) โดยมี Ms. Caroline Holt ผู้อำนวยการด้านภัยพิบัติ สภาพภูมิอากาศ และวิกฤติ แห่ง IFRC เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อส่งความช่วยเหลือให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ IFRC ได้เปิดการระดมทุนฉุกเฉิน เพื่อให้การสนับสนุนปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ขององค์กรด้านมนุษยธรรมในประเทศเพื่อนบ้านของคู่กรณี เหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และมีผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ผู้พลัดถิ่นเป็นจำนวนมาก สภากาชาดไทยขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุการณ์นี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็ววัน

ภาพถ่ายรวมบุคคลการมอบเงินบริจาคกว่า 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในโมร็อกโก

สภากาชาดไทยส่งมอบเงินบริจาคกว่า 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในโมร็อกโก

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย และคณะผู้บริหารสภากาชาดไทย ร่วมส่งมอบเงินบริจาคจากสภากาชาดไทยจำนวน 723,000 บาท และเงินบริจาคที่เปิดรับจากประชาชนจำนวน 415,300 บาท รวมทั้งสิ้น 1,138,300 บาท แก่สภาเสี้ยววงเดือนแดงโมร็อกโก เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศโมร็อกโก โดยมี H.E. Mr. Abderrahim Rahhaly เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทยเป็นผู้แทนรับมอบในนามประชาชนชาวโมร็อกโก และสภาเสี้ยววงเดือนแดงโมร็อกโก จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน ผู้บาดเจ็บกว่า 5,600 คน รวมถึงสิ่งก่อสร้าง อาคาร ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้ รัฐบาลโมร็อกโกและสภาเสี้ยววงเดือนแดงโมร็อกโกกำลังร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

อาสาสมัครกาชาด : การขับเคลื่อน “พลังของผู้ศรัทธาทำความดี”สู่ความยั่งยืนในสังคม

หากจะกล่าวถึงองค์กรสาธารณกุศลที่ใหญ่ระดับประเทศนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สภากาชาดไทย จัดได้ว่าอยู่ในลำดับต้นๆ ของการเป็นองค์กรการกุศลสาธารณประโยชน์ที่เชื่อมโยงการช่วยเหลือประชาชน สังคม และ ประเทศชาติ มาเป็นระยะเวลายาวนาน นอกจากนี้ สภากาชาดไทยยังเป็นองค์กรที่รวบรวมผู้คนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และศรัทธาต่อพลังแห่งการทำความดีด้วยการให้ และการช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อคงไว้ซึ่งความเอื้ออาทร ความเสียสละ และความมีมนุษยธรรมไปสู่เพื่อนร่วมชาติ สู่ความยั่งยืนในสังคม ซึ่งเรียกขานกันในนาม “อาสาสมัครกาชาด” อาสาสมัครกาชาด สังกัดสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด  สภากาชาดไทย ปัจจุบันมีจำนวนอาสาสมัครกาชาดที่พร้อมปฏิบัติงาน เพื่อตอบสนองภารกิจของสภากาชาดไทยกว่าแปดหมื่นคนทั่วประเทศ ด้วยการประสาน และขับเคลื่อนงานของผู้คนที่มีหัวใจอาสาทุกช่วงวัยหลอมรวมเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มจากการปลูกฝังการทำงานจิตอาสาให้กับเยาวชน อันเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต ด้วยการทำหน้าที่ “อาสายุวกาชาด” และเกิดการส่งต่อพลังแห่งงานอาสาสมัครให้เติบโตควบคู่กันไป จนก้าวเข้าสู่วัยหนุ่มสาวที่ได้รับการเรียนรู้ และการปลูกฝังหัวใจแห่งศรัทธาการทำความดี การช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการเป็นผู้ให้อย่างเปี่ยมล้นจนล่วงเข้าสู่วัยเกษียณที่มีความพร้อมในทุกด้านของการดำเนินชีวิต สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด ส่งเสริมการทำงานในการนำพลังของอาสาสมัครมาใช้ให้ได้เต็มที่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนสอดประสานกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถสร้างความยั่งยืนของงาน “จิตอาสา” ให้แก่สังคมและชุมชนผ่านคุณค่าของความเป็น “จิตอาสาสภากาชาดไทย” สู่การเป็น “อาสาสมัครกาชาด” และ แสดงพลังส่งผลให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน ภายใต้กิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ประกอบด้วย การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มเปราะบางทางสังคม การสนับสนุนการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การส่งเสริมการเรียนรู้และต่อยอดการศึกษาของเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร การขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครกาชาดให้มีความรู้ ส่งเสริมทักษะเฉพาะทาง…

ภาพถ่ายรวมบุคคลหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า

สภากาชาดไทย ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย ร่วมพิธีวางพวงมาลา ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ณ ลานพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566